ปัญหาที่ ๔ ป่ารก
พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า “ดูก่อนพระนาคเสน ผู้ปฏิบัติต้องถือองค์ ๕ แห่งป่ารกชัฏนั้น เป็นไฉน”
รูปป่ารกชัฏ
พระนาคเสนทูลตอบว่า “ธรรมดาป่ารกชัฏ
๑. ย่อมปิดบังเหล่าชนที่สกปรกไว้ได้
๒. เป็นที่เปล่าจากชนหมู่มาก
๓. เป็นที่เงียบสงัด
๔. เป็นที่บริสุทธิ์
๕. เป็นที่อันพระอริยชนส้องเสพ
ขอถวายพระพร ผู้ปฏิบัติต้องทำตนให้ทรงองคคุณเช่นเดียวกับป่าชัฏนี้แล คือ
๑. ต้องปกปิดไม่เปิดเผยความผิดพลาดของผู้อื่น
๒. เป็นผู้ว่างเปล่าจากข่ายคือราคะ โทสะ โมหะ มานะ ทิฐิ และกิเลสทั้งปวง
๓. เป็นผู้สงบจากอกุศลธรรมทั้งปวง
๔. เป็นผู้หมดจดจากความมัวหมองทั้งหลาย
๕. เป็นผู้ส้องเสพด้วยพระอริยชน
ดังพุทธนิพนธ์ในสังยุตตนิกาย ซึ่งมีใจความว่า ผู้มีปัญญาพึงเสพด้วยบัณฑิต”
พระเจ้ามิลินท์ตรัสว่า “ชอบแล้ว”
ปัญหาที่ ๕ ต้นไม้
พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า “ดูก่อนพระนาคเสน ผู้ปฏิบัติต้องถือองค์ ๓ แห่งต้นไม้นั้น เป็นไฉน”
รูปต้นไม้
พระนาคเสนทูลตอบว่า “ขอถวายพระพร ธรรมดาต้นไม้
๑. ย่อมมีดอกออกผล
๒. มีร่มเงาในหมู่ชนอาศัย
๓. ไม่เลือกผู้อาศัย เข้าไปพักร่มได้ทุกคน
แม้ผู้ปฏิบัติก็ต้องเป็นเช่นนี้ คือ
๑. ต้องเป็นผู้ทรงดอกไม้กล่าวคือ วิมุต และมีผลกล่าวคือ สามัญคุณ
๒. ต้องต้อนรับด้วยอามิสปฏิสันถาร และธรรมปฏิสันถารแก่ผู้เข้าไปหา
๓. เจริญเมตตาภาวนาในสัตว์ทั่วไป ทำตนให้ปราศจากอคติ
ดังคำที่พระสารีบุตรเถรกล่าวสรรเสริญพระพุทธเจ้าว่า พระมุนีนาถเจ้ามีพระหฤทัยเสมอในชนทั้งปวง คือ ในพระเทวทัต ในองคุลิมาลโจร ในธนปาลกคชสาร และในพระราหุล”
พระเจ้ามิลินท์ตรัสว่า “น่าเลื่อมใสแท้”
<หน้าที่แล้ว สารบัญ หน้าต่อไป>