ปัญหาที่ ๑๐ งูเหลือม
พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า “ดูก่อนพระนาคเสน ผู้ปฏิบัติต้องถือองค์ ๑ แห่งงูเหลือมนั้น เป็นไฉน”
รูปงูเหลือม
พระนาคเสนทูลตอบว่า “ขอถวายพระพร อันงูเหลือมเป็นสัตว์มีกายใหญ่โต ท้องพร่องอยู่เนืองนิตย์ ได้อาหารก็พอประทังชีวิตไปเท่านั้น ฉันใด
ผู้ปฏิบัติก็ต้องกระทำตนฉันนั้น คือต้องเพียรขวนขวายเที่ยวบิณฑบาต อาศัยก้อนข้าวของผู้อื่น หวังก้อนข้าวที่เขาให้งดเว้นจากการหุงต้มเอง หาอาหารให้เต็มท้องได้ยาก
แม้ได้อาหารมาก ก็ฉันแต่พอประมาณ ถึงคราวได้อาหารน้อยก็ขยำน้ำฉัน
ดังภาษิตที่พระสารีบุตรกล่าวไว้ใจความว่า
ภิกษุฉันอาหารสดก็ดี แห้งก็ดี อย่าฉันให้อิ่มนัก พึงให้ท้องพร่องไว้ ฉันแต่พอประมาณ มีสติ เว้นคำข้าวไว้ ๔-๕ คำ เลิกฉันแล้วพึงดื่มน้ำ”
พระเจ้ามิลินท์ตรัสว่า “ชอบแล้ว”
มักกฏกวรรคที่ ๖
ปัญหาที่ ๑ แมงมุม
พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า “ดูก่อนพระนาคเสน ผู้ปฏิบัติต้องถือองค์ ๑ แห่งแมงมุมนั้น เป็นไฉน”
รูปแมงมุม
พระนาคเสนทูลตอบว่า “ขอถวายพระพร อันแมงมุมชักใยเป็นข่ายเป็นเพดาน เมื่อมีหนอน มีแมลง หรือบุ้งมาติดใยเข้า ก็วิ่งไปจับเอาสัตว์นั้น ๆ มากินเสีย ฉันใด
ผู้ปฏิบัติก็ต้องเป็นฉันนั้น คือต้องทำใยกล่าวคือ สติปัฏฐานให้เป็นเพดานที่ทวารทั้ง ๖ มีตา เป็นต้น เมื่อมีแมลงคือกิเลสมาติดใย ก็พึงฆ่าเสียที่ใยนั้น
ดังวจนะประพันธ์ที่พระอนุรุทธเถรกล่าวไว้ใจความว่า
สติปัฏฐานเป็นดุจเพดานในทวารทั้ง ๖ เมื่อกิเลสเข้ามาในเพดาน คือ สติปัฏฐานแล้ว ผู้มีปัญญาพึงฆ่ากิเลสนั้น ๆ เสีย”
พระเจ้ามิลินท์ตรัสว่า “ชอบแล้ว”
<หน้าที่แล้ว สารบัญ หน้าต่อไป>
|