ปัญหาที่ ๘ ต้นหน
พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า “ดูก่อนพระนาคเสน ผู้ปฏิบัติต้องถือองค์ ๓ แห่งต้นหนนั้น เป็นไฉน”
รูปต้นหนเรือ
พระนาคเสนทูลตอบว่า “ขอถวายพระพร ต้นหนมีคติดังนี้คือ
๑. ขณะเมื่อเรือแล่นต้องไม่ประมาท ทั้งกลางวันกลางคืน
๒. ต้องรู้หนทางที่ปลอดภัย และทางที่ฝ่าอันตราย
๓. ระวังเข็มทิศมิให้ผู้อื่นแตะต้อง
แม้ผู้ปฏิบัติก็ต้องทำต้นเช่นเดียวกับต้นหนนี้ คือ
๑. พึงเป็นผู้ไม่ประมาทอยู่เนืองนิตย์ กำหนดจิตโดยโยนิโสมนสิการดังพุทธภาษิตบรรหารว่า
ท่านทั้งหลายจงเป็นผู้ยินดีในความไม่ประมาท จงรักษาจิตไว้เนือง ๆ จงพยายามยกตนขึ้นจากวัฏสงสาร ดุจช้างยกตนขึ้นจากเปือกตม ฉะนั้น
๒. พึงรู้แจ้งซึ่งธรรมเป็นกุศล อกุศลมีโทษ ไม่มีโทษ
๓. พึงสำรวมจิตมิให้ฟุ้งซ่านไปตามอารมณ์ ดุจพุทธภาษิตในสังยุตนิกายว่า ภิกษุทั้งหลาย ท่านทั้งหลายอย่าได้ตรึกถึงอกุศลวิตกทั้ง ๓ แม้อย่างใดอย่างหนึ่ง”
พระเจ้ามิลินท์ตรัสว่า “ดีละ”
ปัญหาที่ ๙ คนงาน
พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า “ดูก่อนพระนาคเสน ผู้ปฏิบัติต้องถือองค์ ๑ แห่งคนงานนั้น เป็นไฉน”
รูปคนทำงาน
พระนาคเสนทูลตอบว่า “ขอถวายพระพร อันคนงานที่ดีย่อมคิดอยู่ว่า คนเราทำการงานก็ด้วยหวังค่าจ้าง และหวังให้ได้มาก เมื่อเป็นเช่นนี้ เราก็ไม่ควรประมาท และไม่ควรเกียจคร้าน
ฉันใด แม้ผู้ปฏิบัติก็ต้องคิดว่า เมื่อเราพิจารณาร่างกายอันประกอบด้วยมหาภูตรูปทั้ง ๔ นี้จักเป็นผู้ไม่ประมาท มีสติอยู่เนือง
นิตย์ มีจิตมั่นคง แล้วย่อมพ้นจากความทุกข์ทั้งหลาย
ดังภาษิตที่พระสารีบุตรเถรเจ้ากล่าวไว้ว่า
ท่านทั้งหลายจงพิจารณากำหนดรู้ร่างกายนี้บ่อยๆ เมื่อรู้จริงแล้ว จักทำที่สุดแห่งกองทุกข์ได้”
พระเจ้ามิลินท์ตรัสว่า “ชอบละ”
|