ปัญหาที่ ๔ ไม้ขานาง
พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า “ดูก่อนพระนาคเสน ผู้ปฏิบัติต้องถือองค์ ๑ แห่งไม้ขานางนั้น เป็นไฉน”
รูปต้นขานาง
พระนาคเสนทูลตอบว่า “ขอถวายพระพร อันไม้ขานางย่อมงอกคุดอยู่ใต้ดิน เมื่อแก่ตัวเต็มที่แล้ว จึงงอกพ้นดินขึ้นมาสูงตั้ง ๑๐๐ ศอกบ้าง ยิ่งกว่านั้นบ้าง
ฉันใด ผู้ปฏิบัติก็ต้องยังสามัญญผล ๔ ปฏิสัมภิทา ๔ อภิญญา ๖ และสมณธรรม ทั้งสิ้น ให้เต็มในสูญญาคาร ฉันนั้น
พระราหุลเถรเจ้าได้กล่าวความข้อนี้ไว้ว่า ต้นขานางย่อมงอกคุดอยู่ใต้ดิน ครั้นรากแก่เต็มที่แล้ว ลำต้นก็ชำแรกดินงอกขึ้นมาในวันเดียวตั้ง ๑๐๐ ศอก
ฉันใด ผู้ประกอบความเพียรก็ต้องเป็นฉันนั้นเหมือนกันคือเจริญรุ่งเรืองในสูญญาคารอันเป็นภายในเช่นกัน”
พระเจ้ามิลินท์ตรัสว่า “ดีละ”
ปัญหาที่ ๕ เรือ
พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า “ดูก่อนพระนาคเสน ผู้ปฏิบัติต้องถือองค์ ๓ แห่งเรือนั้นเป็นไฉน”
รูปเรือ
พระนาคเสนทูลตอบว่า “ธรรมดาเรือ
๑. ย่อมพาคนให้ข้ามไปถึงฝั่งได้
๒. ย่อมทนทานต่อ กำลังคลื่นลมที่มากระทบ
๓. ย่อมแล่นไปได้ใน มหาสมุทรอันลึกซึ่งไม่มีที่สิ้นสุด
ขอถวายพระพร ผู้ปฏิบัติต้องกระทำตนให้เทียบได้กับองค์ทั้ง ๓ ของเรือนั้นคือ
๑. เรือขนสัตว์ในมนุษยโลก และเทวโลก ให้ข้ามถึงฝั่งด้วยความพร้อมเพรียงแห่งคุณธรรมคืออาจารศีลคุณ และวัตตปฏิบัติ
๒. อดกลั้นต่อกำลังแห่งกิเลส คือ โลกธรรม ๘ ประการ ดุจเรือทนทานต่อระลอกคลื่นฉะนั้น
๓. รอบรู้ซึ่งจตุราริยสัจอันมีปริวัต ๓ อาการ ๑๒ และขวนขวายซึ่งบารมีธรรม อันจะข่มขี่เสียซึ่งสัญญา ดุจนาวาแล่นไปในมหาสมุทรไม่มีภัยฉะนั้น
ดังพุทธประพันธ์ภาษิตว่า ภิกษุทั้งหลายเมื่อท่านจะคิด พึงคิดว่า นี้ทุกข์ นี้เหตุแห่งทุกข์ นี้ความดับทุกข์ นี้หนทางดับทุกข์”
พระเจ้ามิลินท์ตรัสว่า “ดีละ”
|