ปัญหาที่ ๔ เสือเหลือง (ตัวผู้)
พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า “ดูก่อนพระนาคเสน ผู้ปฏิบัติต้องถือองค์ ๒ แห่งพ่อเสือเหลืองนั้น เป็นไฉน”
รูปเสือ
พระนาคเสนทูลตอบว่า “ธรรมดาเสือเหลือง
๑. ย่อมซ่อนเร้นอยู่ในที่ลับ คอยตะครุบหมู่เนื้อกินเป็นอาหาร
๒. เนื้อที่ถูกมันตะครุบ ถ้าล้มลงข้างซ้ายมักก็ไม่กิน
ขอถวายพระพร ผู้ปฏิบัติต้องประกอบด้วยองค์ ๒ เช่นเดียวกับพ่อเสือเหลืองนั้น
๑. ต้องอยู่ในที่อันสงัด เจริญภาวนาไปจนมีความชำนาญในอภิญญา ๖ ดังคำที่ กรมสังคาหกาจารย์กล่าวไว้ว่า "เสือเหลืองย่อมซ่อนเร้นคอยตะครุบหมู่เนื้อกินฉันใด พุทธธรรมต้องประพฤติฉันนั้น คือเข้าไปสู่ที่สงัดบำเพ็ญเพียรเจริญวิปัสนาย่อมถือเอาผลสูงสุดได้
๒. ไม่พึงบริโภคโภชนาหารอันได้มาโดยทางที่ผิด ดุจเสือเหลืองไม่กินเนื้อที่ล้มข้างซ้ายนั้น ดังคำที่พระสาลีบุตรเถรกล่าวไว้ว่า "ถ้าข้าพเจ้าพึงฉะนมธุปายาสอันเกิดแต่การขอไม่ไซร้ อาชีวะของข้าพเจ้าก็จะถูกบัณฑิตติเตียนแม้ว่าไส้ของ
ข้าพเจ้าจะต้องทะลักออกจนเสียชีวิต ข้าพเจ้าก็ยอมตายเสียดีกว่า"
พระเจ้ามิลินท์ตรัสว่า “เธอฉลาดว่า”
ปัญหาที่ ๕ เสือเหลือง (ตัวเมีย)
พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า “ดูก่อนพระนาคเสน ก็ผู้ปฏิบัติต้องถือองค์ ๑ แห่งนางเสือเหลืองนั้น เป็นไฉน”
พระนาคเสนทูลตอบว่า “ขอถวายพระพร ปรกติของแม่เสือเหลืองย่อมตั้งครรภ์แต่ตัวเดียว แล้วก็ไม่เข้าใกล้ตัวผู้อื่นต่อไป ฉันใด ผู้ปฏิบัติก็พึงเห็นการเกิด การนอนอยู่ในครรภ์มารดา การตาย เป็นภัยน่าหวาดกลัว เพราะเกี่ยวด้วยทุกขเวทนาอย่างสาหัส แล้วทำใจโดยอุบายอันชอบว่า เราจะพยายามไม่ให้ถือปฏิสนธิในภพต่อไปอีก
ฉันนั้น ดังวจนะประพันธ์ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในธนียโคปาลกสูตรในสุตตนิบาตขุททกนิกายว่า เราตัดสังโยชน์ได้ดังเชือก ทำลายตัณหาได้ดังเถาหัวด้วนแล้ว จึงไม่ปฏิสนธิในครรภ์อีก ประการหนึ่งโคผู้สะบัดเชือกขากแล้วหรือช้างทำลายปลอกหลุดแล้ว ไม่กลับมายังที่ผูกอีกฉะนั้น ดูก่อนเทพ ถ้าท่านปรารถนาก็จงตกลงใจเถิด”
พระเจ้ามิลินท์ตรัสว่า “ชอบละ”
|