ปัญหาที่ ๔ พระโพธิสัตว์ไม่เบียดเบียนสัตว์ (โลมกัสสปปัญหา)
พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า “ดูก่อนพระนาคเสน พระพุทธเจ้าตรัสว่า
‘เราเกิดเป็นมนุษย์ในกาลก่อน มิได้เคยกระทำเบียดเบียนสัตว์เลย’
ฉะนี้มิใช่หรือ”
พระนาคเสนทูลตอบว่า “ขอถวายพระพร เป็นดังพระองค์ตรัสนั้นแล”
ม: “ก็เป็นเหตุไฉน เมื่อครั้งพระพุทธองค์เกิดเป็นโลมกัสสปคราวรักพระจันทวดีราชธิดา และปรารถนาจะได้นาง จึงให้ฆ่าสัตว์จำนวนมากกระทำการบูชายัญเล่า
(เรื่องนี้ในโลมกัสสปชาดก นวกนิบาตว่า พระโลมกัสสปดาบสหลงรักพระจันทวดีราชธิดา จนถึงเข้ามาเฝ้าพระเจ้าพาราณสี ผู้พระชนกพระจันทวดี แต่ก็ไม่ถึงกับให้ฆ่าสัตว์กระทำการบูชายัญ เพราะเมื่อจะฆ่าสัตว์นั้น ท่านเกิดความสลดใจขึ้นมาเลยตัดความรักเสียได้)
น: “ขอถวายพระพร การที่พระโพธิสัตว์โลมกัสสปให้ฆ่าสัตว์บูชายัญครั้งนั้น เป็นเพราะมีสติวิปลาส หาใช่เป็นเพราะมีเจตนาคิดอาฆาตจึงให้ฆ่าสัตว์เหล่านั้นไม่”
ม: “นี่เธอ ก็เฉพาะบุคคลเหล่านี้มิใช่หรือจึงจะกระทำการฆ่าสัตว์ คือผู้อยู่ในอำนาจแห่งความรัก ความโกรธ ความหลง ความถือตัว ความยากได้ ผู้มีการฆ่าสัตว์เป็นอาชีพ คนพาลและพระมหากษัตริย์ผู้ทรงปฏิบัติตามกฎหมาย แต่นี่พระโพธิสัตว์ก็เป็นปกติอยู่มิใช่หรือ ไฉนจึงได้ฆ่าสัตว์กระทำบูชายัญเล่า”
น: “หาใช่เป็นปกติไม่ การที่พระโลมกัสสปให้ฆ่าสัตว์นั้น ก็เป็นด้วยอำนาจแห่งความรักดั่งที่พระองค์ตรัสระบุไว้ในเบื้องต้นนั้นแล
ขอถวายพระพร อันความรักนี้ย่อมกระทำให้คนฟุ้งซ่าน มัวเมา สติวิปลาส ไม่รู้จักผิดจักถูก อย่างเดียวกับคนบ้าย่อมทำอะไรต่ออะไรซึ่งผิดจากอาการของคนปกติได้ทุกอย่าง แม้ที่ผิดกฎหมายแต่ถึงอย่างนั้น บ้านเมืองก็ไม่ลงโทษทัณฑ์มิใช่หรือ”
ม: “จะไปเอาโทษอะไรกะคนบ้าเล่า”
น: “นั่นแลฉันใด โลมกัสสปดาบสก็มีคติเป็นฉันนั้นเหมือนกัน คือ มีสติวิปลาส ตามืดมองไม่เห็นบาปบุญคุณโทษอย่างไร ความรักมีอำนาจเหนือความรู้จักผิดชอบทั้งหลายสิ้น จึงให้ฆ่าสัตว์ถึงเท่านั้น
ขอถวายพระพร และก็ควรได้รับอภัยเช่นเดียวกันด้วย”
ม: “เธอฉลาดว่า”
จบโลมกัสสปปัญหา
ปัญหาที่ ๕ โชติปาลมาณพ บริภาษพระพุทธกัสสป (ฉัททันตโชติปาลอารัพภปัญหา)
พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า “ดูก่อนพระนาคเสน ในฉัททันตชาดกกล่าวไว้ว่า
‘พระยาช้างฉัททันต์ผู้โพธิสัตว์ เอางวงจับพรานโสณุดรด้วยตั้งใจจะฟาดเสีย แต่ครั้นเห็นผ้าเหลืองก็ยั้งใจเสียได้ด้วยความเคารพนับถือ’
ฉะนี้มิใช่หรือ”
พระนาคเสนทูลตอบว่า “ขอถวายพระพร เป็นดังพระองค์ตรัสนั้นแล”
ม: “ถ้าอย่างนั้น ไฉนเมื่อครั้งพระองค์เกิดเป็นโชติปาลมาณพ จึงว่าพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยคำว่าสมณะหัวโล้นเล่า”
น: “การที่โชติปาลมาณพว่า พระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยคำหยาบเช่นนั้น ก็เป็นเพราะเกิดในสกุลพราหมณ์ ซึ่งไม่มีความเชื่อความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา มีความเคารพนับถือพราหมณ์ว่าเป็นพระเจ้า
ขอถวายพระพร บุคคลเมื่อส้องเสพผู้ใด ก็ต้องเป็นอย่างนั้นเหมือนน้ำหวานเมื่อเจือกับยาพิษ รสก็เฝื่อนไปฉันใด นี่ก็ฉันนั้นเหมือนกัน นับแต่วันโชติปาลมาณพเกิดมา ก็คบสนิทสนมอยู่ในหมู่คนที่มิได้นับถือพระพุทธศาสนาตลอดมา
เพราะฉะนั้น เมื่อนายช่างหม้อมาชวนให้ไปเฝ้าพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงตอบว่า จะไปหาสมณะหัวโล้นเพื่อประโยชน์อะไรฉะนี้ได้”
ม: “ฟังได้”
จบฉัททันตโชติปาลอารัพภปัญหา