บทความ
 เคมี (Chemistry)
 สู่อิสรภาพทางการเงิน (To Financial Freedom)
 การคำนวณ และออกแบบ (Calculation and design)
 เทคโนโลยีการเกษตร (Agricultural Technology)
 เครื่องมือกล (Machine tools)
 Laws of Nature
 อวกาศ
 พลังงาน
 อิเล็กทรอนิกส์
 ทฤษฏีสัมพัทธภาพ
 ไครโอเจนิกส์
 เฮลิคอปเตอร์
 เกียร์อัตโนมัติ
 โทรศัพท์มือถือ
 ยาง
 รถไฟความเร็วสูง
 คลัตช์ และกระปุกเกียร์ธรรมดา
 เจ็ทแพ็ค
 แผ่นดินไหว
 คู่มือ ต้องรอด
 โรงไฟฟ้าพลังน้ำ
 ดาวเทียม
 เชื่อมโลหะใต้น้ำ
 กังหันลมผลิตไฟฟ้า
 เครื่องยนต์ดีเซล
 เครื่องยนต์เบนซิน
 คัมภีร์สงครามซุนวู ฉบับเข้าใจง่าย
 โลหะ
 ฟิสิกส์
 ปัญหาพระยามิลินท์
 ยานยนต์สมัยใหม่
 แมคาทรอนิกส์
 เครื่องกล 6 แกน
 เครื่องยนต์เจ็ท
 หุ่นยนต์
 สินค้า ผลงาน
 เขียนแบบ
 ออกแบบ คำนวณ
 วางโครงการ
 งานโลหะ
 อุปกรณ์
 เครื่องกล
วันนี้ 438
เมื่อวาน 4,800
สัปดาห์นี้ 12,516
สัปดาห์ก่อน 12,965
เดือนนี้ 53,716
เดือนก่อน 76,610
ทั้งหมด 4,398,213
  Your IP :3.146.65.212

ปัญหาที่ ๑๐ มรรคเป็นของเก่า หรือของใหม่ (อนุปันนมัคคอุปปาทปัญหา)

 

      พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า “ดูก่อนพระนาคเสน พระพุทธพจน์มีอยู่ว่า

 

เราตถาคต เป็นผู้ยังมรรค (ทาง, เหตุ: way, path, one of the four noble truths of Buddhism) ที่ยังไม่เกิดให้เกิดให้เกิดขึ้นแล้ว

 

ฉะนี้มิใช่หรือ”

 

      พระนาคเสนทูลตอบว่า “ขอถวายพระพร มีอยู่เช่นนั้น”

 

      ม: “ก็ถ้าเช่นนั้น จะมิแย้งกับพระพุทธพจน์ที่ว่า

 

เราตถาคตได้เห็นมรรคของเก่า ทางของเก่า อันพระพุทธเจ้าทั้งหลายในปางก่อนเสด็จดำเนินมาแล้ว

 

ฉะนี้หรือ”

 

      น: “ขอถวายพระพร ไม่แย้ง เพราะว่า พระพุทธเจ้าทั้งหลายในกาลก่อนเสด็จเข้านิพพานไปแล้ว ศาสนาก็อันตรธานเสื่อมสูญไป โดยไม่มีใครสั่งสอน และปฏิบัติกันสืบมา เมื่อเป็นเช่นนั้น มรรคคือหนทางที่พระพุทธเจ้านั้น ๆ ได้เสด็จดำเนินมา ก็เลอะเลือนเสื่อมสูญไป

 

      ครั้นมาถึงวาระที่พระศากยมุนีสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราทรงอุบัติขึ้น มรรค คือหนทางอย่างเดียวกับของเก่านั้น ๆ ก็เกิดขึ้นมา

ด้วย เพราะฉะนั้นพระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า เราตถาคตเป็นผู้ยังมรรคที่ยังไม่เกิด ให้เกิดขึ้นแล้ว 

 

      ขอถวายพระพร ความข้อนี้ เปรียบเหมือนหนทางที่กรุยและ

ปราบเรียบร้อยแล้ว ต่อมาปล่อยให้รกเดินไม่ได้ ภายหลังมีผู้ทำให้เตียนขึ้นได้อีกฉะนั้น”

 

      ม: “เธอฉลาดว่า”

 

จบอนุปันนมัคคอุปปาทปัญหา

จบวรรคที่ ๕

 

 

วรรคที่ ๖

ปัญหาที่ ๑ ทางสายกลาง (ปฏิพทาโทสปัญหา)

 

      พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า “ดูก่อนพระนาคเสน พระพุทธเจ้าเมื่อก่อนตรัสรู้ ได้ทรงพยายามกระทำทุกรกิริยา ทรงได้รับความยากลำบากต่างๆ แต่ก็มิได้ตรัสรู้มิใช่หรือ”

 

      พระนาคเสนทูลตอบว่า “ขอถวายพระพร เป็นดังพระองค์ตรัสนั้นแล”

 

      ม: “ถ้าอย่างนั้น เหตุไฉนพระพุทธองค์จึงตรัสสอนสาวกว่า

 

ท่านทั้งหลาย จงพากเพียรจงพยายามทำกิจในพระพุทธศาสนา จงกำจัดมาร และและเสนามารเสีย ซึ่งเป็นปฏิปทาที่ต้องประสบความยากลำบากทั้งนั้น

ฉะนี้อีกเล่า”

 

      น: “เหตุว่าปฏิปทานั้นแล เป็นทางทำให้พระองค์บรรลุพระสัพพัญญุตญาณ (ความเป็นผู้รู้หมดสิ้น) ขอถวายพระพร ก็แต่ว่า เมื่อพระองค์ทรงบำเพ็ญทุกรกิริยาอยู่นั้น พระองค์ทรง

ประกอบความเพียรเกินไป ซึ่งถึงกับไม่เสวยพระกระยาหารเสียเลย

 

      เมื่อทรงอดอาหารเสียเช่นนั้น พระกำลังก็ไม่มี พระหฤทัยก็กระสับกระส่ายไม่เป็นเอกัคคตารมณ์ (อารมณ์ที่ดี ปกติ)ได้ เพราะเหตุนี้พระพุทธองค์จึงไม่ได้บรรลุพระสัพพัญญุตญาณ

 

      ต่อเมื่อพระองค์ทรงเลิกการบำเพ็ญทุกรกิริยานั้นเสีย แล้วทรงดำเนินในปฏิปทาทางสายกลาง จึงได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

 

      ความข้อนี้เปรียบเหมือนผู้บริโภคอาหาร ถ้าบริโภคมากเกินไป ก็ไม่ได้รับความสุข ต่อเมื่อบริโภคพอเหมาะพอดี จึง

จะเกิดความสุขและเป็นคุณประโยชน์แก่ร่างกายฉะนั้น”

 

      ม: “ฟังได้”

 

จบปฏิพทาโทสปัญหา

 

 

Share on Facebook
 
Google

WWW
http://www.thummech.com/
ฟังเพลงออนไลน์ คลิกเลย
 
Copyright © 2013-2015 Thummech All Rights Reserved. 
Powered by  ThaiWebPlus 
คนธรรมดามีความรู้คือคนฉลาด คนฉลาดมีความเข้าใจคือคนธรรมดา