บทความ
 เคมี (Chemistry)
 สู่อิสรภาพทางการเงิน (To Financial Freedom)
 การคำนวณ และออกแบบ (Calculation and design)
 เทคโนโลยีการเกษตร (Agricultural Technology)
 เครื่องมือกล (Machine tools)
 Laws of Nature
 อวกาศ
 พลังงาน
 อิเล็กทรอนิกส์
 ทฤษฏีสัมพัทธภาพ
 ไครโอเจนิกส์
 เฮลิคอปเตอร์
 เกียร์อัตโนมัติ
 โทรศัพท์มือถือ
 ยาง
 รถไฟความเร็วสูง
 คลัตช์ และกระปุกเกียร์ธรรมดา
 เจ็ทแพ็ค
 แผ่นดินไหว
 คู่มือ ต้องรอด
 โรงไฟฟ้าพลังน้ำ
 ดาวเทียม
 เชื่อมโลหะใต้น้ำ
 กังหันลมผลิตไฟฟ้า
 เครื่องยนต์ดีเซล
 เครื่องยนต์เบนซิน
 คัมภีร์สงครามซุนวู ฉบับเข้าใจง่าย
 โลหะ
 ฟิสิกส์
 ปัญหาพระยามิลินท์
 ยานยนต์สมัยใหม่
 แมคาทรอนิกส์
 เครื่องกล 6 แกน
 เครื่องยนต์เจ็ท
 หุ่นยนต์
 สินค้า ผลงาน
 เขียนแบบ
 ออกแบบ คำนวณ
 วางโครงการ
 งานโลหะ
 อุปกรณ์
 เครื่องกล
วันนี้ 64
เมื่อวาน 1,634
สัปดาห์นี้ 6,294
สัปดาห์ก่อน 11,634
เดือนนี้ 34,529
เดือนก่อน 76,610
ทั้งหมด 4,379,026
  Your IP :3.145.183.137

ปัญหาที่ ๒ พระดำรัสของพระพุทธเจ้าเป็นสุจริต (ตถาคตผรุสวาจนนัตถีติปัญหา)

 

      พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า “ดูก่อนพระนาคเสน พระสารีบุตรกล่าวไว้ว่า

 

พระพุทธเจ้ามีพระมรรยาทอ่อนโยน พระวาจาอ่อนหวาน

 

ฉะนี้มิใช่หรือ”

 

      พระนาคเสนทูลตอบว่า “ขอถวายพระพร เป็นดังพระองค์ตรัสนั้นแล”

 

      ม: “ถ้าอย่างนั้น เหตุไฉนพระพุทธองค์จึงตรัสเรียกพระสุทินกลันทก โดยทรงใช้คำว่า "โมฆบุรุษ" (บุรุษเปล่า) บุตรเล่า”

 

(พระสุทินเป็นบุตรเศรษฐีในเมืองเวสาลี ออกบวชเมื่อมีภรรยาแล้วแต่ยังไม่มีบุตร บิดาวิงวอนขอให้กลับไปสู่สมรสด้วยใคร่จะได้หลานไว้ครองสกุล พระสุทินไปกระทำตามความประสงค์ของบิดา เรื่องนี้เป็นต้นบัญญัติของปฐมปาราชิกสิกขาบท

 

        ฝ่ายรุกขเทวดารู้ว่าเขาจะมาตัดต้นสะคร้อ เพราะหมีเป็นเหตุ จึงแปลงเพศเป็นบุรุษไปหาภารทวาชพราหมณ์ไต่ถามความประสงค์แล้วจึงแนะนำ

 

        เมื่อเอาไม้สะคร้อไปทำรถ ถ้าได้หนังคอหมีมาหุ้มกงรถ กงรถจะมั่นคงดีนัก ที่สุดพราหมณ์ก็กระทำตามคำแนะนำของเทวดาและหมี ชาดกนี้พระพุทธองค์ทรงนำมาเป็นตัวอย่างแห่งการผูกเวรซึ่งกันและกัน)  

 

      น: “ขอถวายพระพร อันลักษณะแห่งคำว่าโมฆบุรุษนั้น หยาบคายจริง แต่การที่พระพุทธองค์ทรงนำมาตรัสเรียกพระสุทินผู้กระทำผิดนั้น หาจัดเป็นคำหยาบไม่

 

      เพราะพระองค์ตรัสด้วยมีพระฤทัยกอบด้วยเมตตากรุณา ประหนึ่งคำที่มารดาบิดาด่าว่าบุตรผู้กระทำผิดด้วยหวังจะสั่งสอนฉะนั้น”

 

      ม: “ธรรมดาผู้ที่ด่าเขา แม้จะว่าไปตามความจริง ก็จัดว่าผิดนี่เธอ”

 

      น: “ตามที่พระองค์ตรัสนั้น ผู้ด่ามีความเจตนาร้ายต่อผู้กระทำผิด ซึ่งผิดกับพระหฤทัยของพระพุทธเจ้า อันประกอบไปด้วยพรหมวิหารธรรม

 

      ขอถวายพระพร อาตมภาพขอทูลถามพระองค์ว่า ผู้กระทำผิดควรจะได้รับสักการะหรือได้รับโทษ”

 

      ม: “ก็ต้องรับโทษตามกระทงแห่งความผิดสิเธอ”

 

      น: “ถ้าเป็นเช่นนั้น เพียงคำว่าโมฆบุรุษ ซึ่งพระพุทธองค์ตรัสใช้เป็นคำเรียกพระสุทินผู้กระทำผิดนั้น จะจัดว่าพระองค์ตรัสคำหยาบจะได้หรือ

 

      ขอถวายพระพร พระพุทธองค์ย่อมมีพระมรรยาทงามอ่อนโยน พระวาจาไพเราะจับใจ พระหฤทัยเฉียบแหลมฉลาดในวิธีที่จะทรงสั่งสอน เมื่อทรงเห็นว่า ประชุมชนจะได้บรรลุมรรคผล

 

      หรือที่สุดเพียงจะให้ละพยศอันร้าย ได้ด้วยวิธีใด ก็ทรงใช้วิธีนั้น เพราะทรงมุ่งเฉพาะแต่ผลอันดีงาม เป็นประโยชน์สุขแก่เวไนยสัตว์เท่านั้น”

 

จบตถาคตผรุสวาจนนัตถีติปัญหา

 

 

 

ปัญหาที่ ๓ หมีกับไม้สะคร้อ (รุกขเจตนาเจตนปัญหา)

 

      พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า “ดูก่อนพระนาคเสน พระพุทธเจ้าตรัสว่า

 

ต้นไม้ไม่มีเจตนา เจรจาไม่ได้ ฉะนี้

 

แต่เหตุไรจึงตรัสว่า ต้นสะคร้อพูดกับพราหมณ์ (เรื่องเดิม (ผันทนชาดก เตรสนิบาต) มีอยู่ว่า มีหมีตัวหนึ่ง นอนหลับอยู่ที่ใต้ต้นสะคร้อ เผอิญลมพัดกิ่งสะคร้อแห้งหักลงมาทับคอหมี หมีเข้าใจว่า เทวดาผู้สิงที่ต้นสะคร้อข่มเหง จึงผูกพยาบาท วันหนึ่งหมีได้นำภารทวาชพราหมณ์ผู้เป็นช่างไม้ไปที่ต้นสะคร้อ เพื่อจะให้ตัดทำลายวิมานเทวดาเสียให้สมแค้น) ฉะนี้อีกเล่า ฟังดูไม่สมกันเลย”

 

      พระนาคเสนทูลตอบว่า “ขอถวายพระพร พระพุทธพจน์ในตอนต้นนั้น พระองค์ตรัสตามความเป็นจริง เพราะว่าต้นไม้ไม่มีจิตใจจึงพูดไม่ได้

 

      ส่วนคำว่าต้นสะคร้อในคำหลังนั้น พระองค์ทรงหมายถึงเทวดาผู้ซึ่งสิงอยู่ที่ต้นไม้นั้น และที่ตรัสเป็นคำสามัญ  ดังนั้น ก็เพราะตรัสตามโลกบัญญัติ

 

      เหมือนคำที่เรียกกันว่า เกวียนข้าวเปลือก ซึ่งที่จริงเป็นเกวียนบรรทุกข้าวเปลือก หาใช่เกวียนทำด้วยข้าวเปลือกไม่”

 

      ม: “เข้าใจละ”

 

จบรุกขเจตนาเจตนปัญหา

 

 

Share on Facebook
 
Google

WWW
http://www.thummech.com/
ฟังเพลงออนไลน์ คลิกเลย
 
Copyright © 2013-2015 Thummech All Rights Reserved. 
Powered by  ThaiWebPlus 
คนธรรมดามีความรู้คือคนฉลาด คนฉลาดมีความเข้าใจคือคนธรรมดา