ปัญหาที่ ๑๐ รู้ได้อย่างไรนิพพานเป็นสุข (นิพพานสุขภาวชานนปัญหา)
พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า “ดูก่อนพระนาคเสน ก็ผู้ที่ยังไม่ได้พระนิพพานจะรู้หรือไม่ว่า พระนิพพานเป็นสุข”
พระนาคเสนทูลตอบว่า “ขอถวายพระพร รู้”
ม: “รู้ได้อย่างไร”
น: “อาตมภาพขอทูลถามบ้างว่า คนที่มีร่างกายบริบูรณ์มิได้พิการอะไร จะรู้หรือไม่ว่า การตัดมือตัดเท้าเป็นความเจ็บปวด”
ม: “รู้สิเธอ”
น: “ขอถวายพระพร นั่นรู้ได้ด้วยอะไร”
ม: “รู้ได้ด้วยฟังเสียงครวญคราง หรือเห็นอาการดิ้นรนของคนที่ถูกตัดมือตัดเท้า”
น: “นั่นแลฉันใด แม้ผู้ที่ยังไม่ได้พระนิพพานก็ฉันนั้นเหมือนกัน คือได้เห็นกิริยา มรรยาท หรือได้ยินได้ฟังถ้อยคำของท่านที่ได้พระนิพพานแล้ว ก็หยั่งรู้ได้ว่าพระนิพพานเป็นสุข”
ม: “ชอบแล้ว”
จบนิพพานสุขภาวชานนปัญหา
จบวรรคที่ ๔
วรรคที่ ๕
ปัญหาที่ ๑ พระพุทธเจ้ามีจริงหรือ (พุทธอัตถินัตถิภาวปัญหา)
รูปวาดพระพุทธเจ้า
พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า “ดูก่อนพระนาคเสน เธอเคยเห็นพระพุทธเจ้าหรือไม่”
พระนาคเสนทูลตอบว่า “ขอถวายพระพร อาตมภาพไม่เคยเห็น”
ม: “อาจารย์ของเธอเล่าได้เห็นหรือไม่”
น: “อาจารย์ของอาตมภาพก็ไม่ได้เห็น”
ม: “ถ้าอย่างนั้น พระพุทธเจ้ามิไม่มีหรือ”
น: “ขอถวายพระพร พระองค์เคยเสด็จไปทอดพระเนตรแม่น้ำโอหานที ที่ป่าหิมพานต์หรือไม่”
ม: “ข้าพเจ้าไม่เคยไปดู”
น: “พระชนกของพระองค์เล่าได้เสด็จไปทอดพระเนตรบ้างหรือไม่”
ม: “พระชนกของข้าพเจ้าก็ไม่ได้เสด็จไปทอดพระเนตร”
น: “ถ้าอย่างนั้น แม่น้ำโอหานทีมิไม่มีหรือ”
ม: “มีสิเธอ, เป็นแต่พระชนกและข้าพเจ้ามิได้ไปดูไปเห็นมาเท่านั้น”
น: “นั่นแลฉันใด นี่ก็ฉันนั้น อาจารย์และอาตมภาพก็ไม่ได้เห็นพระพุทธเจ้าเหมือนกัน เพราะว่าเกิดไม่ทัน แต่ว่าพระพุทธเจ้ามีจริง
ขอถวายพระพร เหตุที่จะพึงนำมาพิสูจน์ข้อนี้ ก็คือ โลกุตรธรรม (ธรรมอันมิใช่วิสัยของโลก, สภาวะพ้นโลก) ๙ ประการ
( ๑. โสดาปัตติมรรค (หนทางบรรลุเป็นพระโสดาบัน)
๒. โสดาปัตติผล (การได้บรรลุเป็นพระโสดาบัน)
๓. สกทาคามิมรรค (หนทางบรรลุเป็นพระสกิทาคามี)
๔. สกทาคามิผล (การได้บรรลุเป็นพระสกิทาคามี)
๕. อนาคามิมรรค (หนทางบรรลุเป็นพระอนาคามี)
๖. อนาคามิผล (การได้บรรลุเป็นพระอนาคามี)
๗. อรหัตตมรรค (หนทางบรรลุเป็นพระอรหันต์)
๘. อรหัตตผล (การได้บรรลุเป็นพระอรหันต์)
๙. นิพพาน (การได้บรรลุพระนิพพาน) )
ซึ่งเป็นธรรมชั้นสูงสุด พ้นวิสัยที่คนสามัญจะพึงคิดเห็นได้เอง ต้องเฉพาะแต่ผู้ที่ได้อบรมความดีจนสติปัญญาแก่กล้าเท่านั้น จึงจะเป็นผู้รู้เองเห็นเองซึ่งธรรมเหล่านั้นได้ ครั้นแล้วนำมาเผยแพร่แก่พุทธบริษัทเพื่อให้รู้ตามเห็นตามบ้าง
ขอถวายพระพร เหตุมีโลกุตรธรรมเป็นพยานอยู่เช่นนี้จึงรู้ได้ว่า ผู้แรกตรัสรู้พระธรรมเหล่านั้นซึ่งได้พระนามว่าพระพุทธเจ้ามีจริง”
ม: “มองเห็นและ”
จบพุทธอัตถินัตถิภาวปัญหา