บทความ
 เคมี (Chemistry)
 สู่อิสรภาพทางการเงิน (To Financial Freedom)
 การคำนวณ และออกแบบ (Calculation and design)
 เทคโนโลยีการเกษตร (Agricultural Technology)
 เครื่องมือกล (Machine tools)
 Laws of Nature
 อวกาศ
 พลังงาน
 อิเล็กทรอนิกส์
 ทฤษฏีสัมพัทธภาพ
 ไครโอเจนิกส์
 เฮลิคอปเตอร์
 เกียร์อัตโนมัติ
 โทรศัพท์มือถือ
 ยาง
 รถไฟความเร็วสูง
 คลัตช์ และกระปุกเกียร์ธรรมดา
 เจ็ทแพ็ค
 แผ่นดินไหว
 คู่มือ ต้องรอด
 โรงไฟฟ้าพลังน้ำ
 ดาวเทียม
 เชื่อมโลหะใต้น้ำ
 กังหันลมผลิตไฟฟ้า
 เครื่องยนต์ดีเซล
 เครื่องยนต์เบนซิน
 คัมภีร์สงครามซุนวู ฉบับเข้าใจง่าย
 โลหะ
 ฟิสิกส์
 ปัญหาพระยามิลินท์
 ยานยนต์สมัยใหม่
 แมคาทรอนิกส์
 เครื่องกล 6 แกน
 เครื่องยนต์เจ็ท
 หุ่นยนต์
 สินค้า ผลงาน
 เขียนแบบ
 ออกแบบ คำนวณ
 วางโครงการ
 งานโลหะ
 อุปกรณ์
 เครื่องกล
วันนี้ 1,602
เมื่อวาน 984
สัปดาห์นี้ 12,631
สัปดาห์ก่อน 29,853
เดือนนี้ 59,788
เดือนก่อน 65,987
ทั้งหมด 4,875,040
  Your IP :18.218.76.193

ปัญหาที่ ๒ รู้ได้ไหมว่าชาติแรกสุด เกิดเป็นอะไร อยู่ที่ไหน (ปุริมโกฏิปัญหา)

 

      พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า “ดูก่อนพระนาคเสน ก็คำที่เธอว่าเวลาเกิดดับของนามรูปที่ล่วงๆ มาแล้ว นานจนเบื้องต้นไม่ปรากฏนั้น หมายความว่า นานจนนามรูปที่แรกเกิดทีเดียวไม่ปรากฏกระนั้นหรือ”

 

      พระนาคเสนทูลตอบว่า “ขอถวายพระพร ถูกแล้ว”

 

      : “ไม่ปรากฏทั้งหมดเทียวหรือเธอ”

 

      : “ขอถวายพระพร บางอย่างก็ปรากฏ บางอย่างก็ไม่ปรากฏ”

 

      : “อย่างไหนปรากฏ อย่างไหนไม่ปรากฏ”

 

      : “ขอถวายพระพร นามรูปที่สาวไปไม่ถึงว่า ชั้นเดิมเป็นอะไร อยู่ที่ไหน อย่างนี้ไม่ปรากฏ แต่อย่างที่เดิมไม่ปรากฏ มาปรากฏเป็นนามรูปขึ้นในระหว่างทาง แล้วก็หายไปอีก อย่างนี้ปรากฏ”

 

      : “เธอจงเปรียบอย่างไม่ปรากฏให้ฟัง”

 

      : “เหมือนพืชพันธุ์ ที่เขาปลูกที่พื้นดิน ครั้นพืชพันธุ์ นั้นงอกงามผลิดอกออกใบ เขาก็เก็บผลเอาเมล็ดไปเพาะใหม่ต่อไปอีก โดยทำนองนี้เรื่อยๆ ไป

 

รูปเมล็ดพันธุ์พืช

 

รูปการปลูกเมล็ดพันธุ์พืช

 

 

      ขอถวายพระพร เมื่อเวลาล่วงไปนานๆ จะรู้ได้หรือว่านั่นเป็นพืชพันธุ์เดิม”

 

      : “รู้ไม่ได้”

 

      : “นั่นแลฉันใด อย่างไม่ปรากฏก็ฉันนั้นเหมือนกัน แม้จะใช้ความรู้ให้สาวไปหาต้นเดิม ก็รู้ไม่ได้ว่านามรูปเดิมเป็นอย่างไรอยู่ที่ไหน”

 

      : “ขอเธอจงเปรียบให้ฟังอีก”

 

รูปล้อเกวียน

 

      พระนาคเสนจึงเขียนรูปล้อรถถวายทอดพระเนตร แล้วทูลถามว่า “ขณะเมื่อล้อนี้หมุนอยู่ พระองค์จะทรงทราบได้หรือว่า ซี่ไหนเป็นอันต้น”

 

      : “รู้ไม่ได้สิเธอ”

 

      : “ขอถวายพระพร การจะกำหนดนามรูปที่ล่วงมาแล้วว่า แรกเกิดเป็นอะไร ก็รู้ไม่ได้ กำหนดไม่ได้เช่นนั้นเหมือนกัน เพราะเกิดแล้วดับ  ดับแล้วก็เกิดใหม่ต่อไปอีก หมุนอยู่เช่นนี้เสมอมา ฉะนี้ จึงกล่าวได้ว่าเบื้องต้นไม่ปรากฏ”

 

      : “เธอช่างฉลาดจริง ๆ”

 

จบปุริมโกฏิปัญหา

 

 

 

ปัญหาที่ ๓ ความต่อเนื่องของการเวียนว่าย ตายเกิด (โกฏิยาปุริมปัญหา)

 

      พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า “ดูก่อนพระนาคเสน ก็แลคำที่เธอว่าอย่างที่เดิมไม่ปรากฏมาปรากฏเป็นนามรูปขึ้นในระหว่างทางแล้วก็หายไปอีก อย่างนี้การปรากฏนั้น ได้แก่เรา ๆ ซึ่งเดิมก็มีแต่บาปบุญติดตามมา แล้วมาเกิดเป็นตัวเป็นตนขึ้น ครั้นแล้วก็ตายทอดทิ้งร่างกายหายไป เช่นนี้ถูกหรือไม่”

 

      พระนาคเสนทูลตอบว่า “ขอถวายพระพร ถูกแล้ว”

 

      : “ก็เมื่อต้น และปลายไม่ปรากฏทั้งสองข้างเช่นนั้นแล้ว จะมาติดต่อกันได้หรือเธอ”

 

      : “ขอถวายพระพร ติดต่อกันได้”

 

      : “เธอจงหาตัวอย่างมาเปรียบให้ฟัง”

 

      : “เหมือนต้นไม้แรกปลูกก็ยังไม่มีใบไม่มีดอก ต่อมาพอเกิดต้น ก็เกิดมีใบมีดอกขึ้น ขอถวายพระพร ก็การที่ต้นไม้มีใบมีดอกในระหว่างกลางขึ้นได้นั้นเป็นเหตุเนื่องมาจากอะไร”

 

      : “เป็นด้วยมีลำต้นอยู่ ใบและดอกนั้น ๆ จึงเกิดติดต่อขึ้นมาได้”

 

      : “ขอถวายพระพร ก็ในที่สุดเล่าใบและดอกเหล่านั้นจะเป็นอย่างไร”

 

รูปใบไม้ร่วง

 

      : “ก็ร่วงหล่นไปหมดสิ้นสิเธอ จะมีเหลืออยู่ก็แต่ต้นและกิ่งซึ่งถึงคราวก็เกิดใบเกิดดอกใหม่อีก”

 

      : “ขอถวายพระพร นามรูปก็เป็นเช่นเดียวกับใบไม้ ดอกไม้นั้นแล คือเดิมก็ไม่ปรากฏแต่เนื่องด้วยมีบุญบาป ซึ่งตนได้กระทำไว้ในก่อนเป็นเหตุอยู่ บุญบาปนั้นแลเป็นลำต้นให้เกิดมีนามรูปติดต่อขึ้นมาในระหว่างทางได้

 

      ครั้นเกิดเป็นตัวตนขึ้นแล้ว ถึงวาระที่สุดก็ทอดทิ้งร่างกายสูญหายไป สิ่งที่ยังคงมีอยู่ก็คือบุญบาป ซึ่งจะให้เกิดนามรูปต่อไปอีกเท่านั้น”

 

      : “อ้อ ติดต่อกันได้จริง”

 

จบโกฏิยาปุริมปัญหา

 

 

 

Share on Facebook
 
Google

WWW
http://www.thummech.com/
ฟังเพลงออนไลน์ คลิกเลย
 
Copyright © 2013-2015 Thummech All Rights Reserved. 
Powered by  ThaiWebPlus 
คนธรรมดามีความรู้คือคนฉลาด คนฉลาดมีความเข้าใจคือคนธรรมดา