วรรคที่ ๒
ปัญหาที่ ๑ ผู้ตายแล้วไปเกิดอีก จะเป็นคนเดิม หรือเป็นคนอื่น(ธัมมสันตติปัญหา)
พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า “ดูก่อนพระนาคเสน ผู้ที่ตายไปแล้วกลับไปเกิดอีก เขาจะยังคงเป็นผู้นั้น หรือว่าจะเปลี่ยนไปเป็นอีกคนหนึ่ง”
พระนาคเสนทูลตอบว่า “จะว่าเป็นผู้นั้นก็ไม่ใช่ จะว่าเป็นอีกคนหนึ่งก็ไม่ใช่”
ม: “ขอเธอจงเปรียบให้ฟัง”
น: “อาตมภาพขอทูลถามว่า เมื่อพระองค์ยังทรงพระเยาว์บรรทมอยู่ในพระอู่ (เปลทารก) กับพระองค์ทรงพระเจริญวัยเป็นผู้ใหญ่ขึ้นในบัดนั้น จะนับว่าเป็นพระองค์เดียวกันหรือต่างพระองค์กัน”
ม: “ต่างกันเป็นคนละคนทีเดียว”
น: “ถ้าเป็นอย่างนั้น บิดามารดาของบุคคลหนึ่ง ๆ ก็มีหลายคน และมีลูกหลายครั้งนั่นสิ เช่นเมื่อยังเป็นเด็ก บิดามารดามีลูกคนหนึ่ง เติบโตเป็นหนุ่มเป็นสาวก็เป็นลูกอีกคนหนึ่ง ถึงปูนแก่เฒ่าก็เป็นลูกอีกคนหนึ่ง”
ม: “หาเป็นเช่นนั้นไม่ แต่ถ้าเป็นเธอถูกถามเข้าบ้าง เธอจะตอบว่ากระไร”
น: “อาตมภาพก็ตอบว่า อาตมภาพนี่แลเป็นเด็ก อาตมภาพนี่แลเป็นผู้ใหญ่, อาศัยร่างกายอันนี้แลจึงนับว่าเป็นคนๆ เดียวกัน”
ม: “ขอเธอจงเปรียบให้ฟังอีก”
น: “การจุดโคมไฟ เขาอาจจะตามไว้ตลอดรุ่งได้มิใช่หรือ”
ม: “ได้สิเธอ”
น: “ก็เปลวไฟในยามที่ ๑ กับยามที่ ๒ เป็นเปลวไฟอันเดียวกันหรือมิใช่”
ม: “ไม่ใช่”
น: “และเปลวไฟในยามที่ ๒ กับในยามที่ ๓ เป็นเปลวไฟอันเดียวกันหรือมิใช่”
ม: “ไม่ใช่”
น: “ขอถวายพระพร หรือเปลวไฟในยามทั้ง ๓ นั้น ในยามหนึ่ง ๆ เป็นเปลวไฟอย่างละชนิดกัน”
ม: “หามิได้”
น: “นี่แลฉันใด ความสืบเนื่องแห่งรูปธรรมนามธรรมก็ฉันนั้น อันหนึ่งดับ อันหนึ่งก็เกิดขึ้นแทน สืบเนื่องกันเรื่อยๆ ไป เพราะฉะนั้นผู้ที่ตายแล้ว กลับไปเกิดอีก จะว่าเป็นผู้นั้นก็ไม่ใช่จะว่าเป็นอีกคนหนึ่งก็ไม่ใช่”
ม: “เธอเปรียบน่าฟัง”
จบธัมมสันตติปัญหา
ปัญหาที่ ๒ ตัวเองรู้ไหมว่าจะไม่กลับมาเกิดอีก (นัปปฏิสนธิคหณชานนปัญหา)
พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า “ดูก่อนพระนาคเสน ก็ผู้ที่ไม่ต้องมาเกิดอีกนั้น เขาจะรู้ตัวหรือไม่ว่าเขาจักไม่มาเกิด”
พระนาคเสนทูลตอบว่า “ขอถวายพระพร รู้”
ม: “รู้ได้อย่างไร”
น: “รู้ได้ด้วยรู้ตัวเองอยู่ว่า สิ่งซึ่งเป็นเหตุให้เกิด ตนได้ทำให้หมดสิ้นไปแล้ว”
ม: “เธอจงหาตัวอย่างมาเปรียบ”
น: “ขอถวายพระพร ชาวนานวดข้าวเสร็จแล้ว เขาขนข้าวเปลือกมาใส่ยุ้งฉางไว้เต็ม ครั้นปีต่อมาเขาไม่ได้ทำนาอีก, ก็ข้าวเปลือกที่เขาสะสมไว้นั้นมีแต่กินสิ้นเปลืองไปทุกวัน ๆ เมื่อเป็นเช่นนั้น ชาวนาผู้นั้นเขาจะรู้หรือไม่ว่า ยุ้งฉางของเขาจักไม่เต็มขึ้นอีก”
ม: “รู้สิเธอ”
น: “ขอถวายพระพร รู้ได้เพราะอะไร”
ม: “เพราะตัวหยุดทำนาจึงรู้ได้”
น: “นั่นแลฉันใด แม้ผู้ที่ไม่ต้องมาเกิดอีกเขาก็รู้ตัวฉันนั้น เพราะตัวเขาได้หยุด ก่อเหตุซึ่งจะทำให้เกิดต่อไปหมดแล้ว”
ม: “เปรียบเข้าใจดี”
จบนัปปฏิสนธิคหณชานนปัญหา