รูปรถยนต์กำลังเบรก
แนะนำเพื่อให้อ่านได้ต่อเนื่องให้ คลิกขวาเลือก Open link in new window
เมื่อล้อหลังล็อคตัวแล้ว ยานยนต์ก็จะสูญเสียสภาพมั่นคง ดังแสดงไนรูปด้านล่าง
รูปการสูญเสียสภาพมั่นคงเนื่องจากการล็อคตัวของล้อหลัง
รูปรถยนต์เบรกทางโค้ง
จากรูปด้านบนแสดงภาพมุมสูงของยานยนต์เข้าโค้ง และเกิดการเบรก จนเกิดแรงบรก และแรงเฉื่อย (Inertia force) เมื่อล้อหลังล็อคตัว ความสามารถของยางหลัง ที่จะต้านทานต่อแรงด้านข้างก็ลดลงจนไปเป็นศูนย์
หากบางครั้งการสไลด์จนเกิดการเคลื่อนที่ด้านข้างของล้อหลัง สาเหตุอาจเกิดจากลมมาปะทะ, ถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ หรือเกิดจากแรงเหวี่ยง ก็จะเกิดการเคลื่อนที่เฉไปเนื่องจากแรงเฉื่อย ถ้าเกิดการเฉของเพลาล้อหน้าขึ้น ซึ่งอาจจะเกิดการเคลื่อนที่หมุนไปเรื่อย แขนโมเมนต์ของแรงเฉื่อยเพิ่มขึ้น เป็นผลจากการเพิ่มในความเร่งจนรถเกิดของหมุนตัว
ถ้าจากปลายด้านหลังของยานยนต์ที่จะเหวี่ยงสวิงประมาณ 90° แขนโมเมนต์ค่อย ๆ ลดลง และรถก็จะเกิดการหมุนคว้างประมาณ 180° กับด้านหลังจนนำด้านหน้า
รูปรถยนต์เบรกจนรถหมุน
การเกิดการล็อคตัวของล้อด้านหน้า เนื่องจากการควบคุมทิศทางที่สูญเสียไป และคนขับจะพยายามควบคุมพวงมาลัยคืนให้ได้ แต่รถเสียสภาพการทรงตัวแล้ว มันจึงหมุนตัว อย่างไรก็ดี ล้อหน้าล็อคตัวมักจะไม่ก่อให้เกิดทิศทางที่ไม่แน่นอน
นี้เป็นเพราะว่าเมื่อใดการเคลื่อนที่สไลด์ทางด้านข้างของล้อหน้าเกิดขึ้นอันเนื่องจากแรงเฉื่อย ยังสามารถคอยควบคุมพวงมาลัยได้ ซึ่งล้อหลังจะทำไม่ได้ ดังนั้นมันจึงมีแนวโน้มที่จะพายานยนต์กลับไปเส้นทางตรง ดูกราฟด้านล่าง
แสดงการวัดส่วนเบี่ยงเบน (Angular deviation) ของยานยนต์ เมื่อล้อหน้า และล้อหลังไม่ล็อคตัว ช่วงเวลาเดียวกัน
การสูญเสียการควบคุมพวงมาลัย อาจพบมากจากคนขับประมาทเผลอเรอ และจากการควบคุมการเบรกที่ไม่เหมาะสมต่อสภาพการขับขี่ ตรงกันข้ามกับกรณีของการล็อคตัวของล้อหน้า เมื่อล้อหลังล็อคตัว และเกิดส่วนเบี่ยงเบนของรถเกินระดับปกติ การควบคุมไม่สามารถกลับมาได้ ต้องอาศัยการประสิทธิภาพของเบรก และจากฝีมือของการขับรถมากที่สุด
จากที่กล่าวมานี้ แสดงให้เห็นว่าการล็อคล้อหลังเป็นสถานการณ์ที่วิกฤติมากกว่าล้อหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนอยู่บนถนนที่มีค่าสัมประสิทธิ์การยึดเกาะถนนต่ำ หากขับขี่บนพื้นผิวที่ลื่น ค่าของแรงเบรกจะต่ำ เมื่อเกิดการเบรกพลังงานจลน์ของยานยนต์จะกระจายในอัตราที่ต่ำ และรถอาจจะได้สัมผัสกับความสูญเสียที่ร้ายแรงของทิศทางที่ไม่เสถียรภาพในระยะที่มาก เพราะฉะนั้น
นักออกแบบระบบเบรกยานยนต์ ต้องออกแบบจนทำให้แน่ใจว่า เมื่อเกิดการเบรกแล้ว ล้อหลังจะไม่ถูกล็อคตัวก่อน
รูประบบเบรกเอบีเอส
ระบบป้องกันล้อล็อคตาย หรือเอบีเอส (Antilock Braking System: ABS) ถูกพัฒนามาไม่กี่ปีที่ผ่านมา มันสามารถสร้างประสิทธิภาพของการเบรกได้มากขึ้น โดยป้องกันล้อจากการล็อคตัว ระบบนี้จะใช้เซ็นเซอร์ความเร็วเพื่อตรวจสอบความเร็วการหมุนของล้อ
รูปเปรียบเทียบกันของเบรกธรรมดา กับระบบเอบีเอส
เมื่อมีการตรวจพบว่าล้อล็อคตัว ระบบควบคุมความดันการเบรกจะลดความดัน และทำให้ล้อรถสามารถกลับมาหมุนได้อีก และก็ควบคุมการเบรกอีก และล้อหมุนอีกสลับกันไป
วิดีโอแอนิเมทชันอธิบายง่าย ๆ ของระบบเบรกเอบีเอส
จบบทที่ 2
ข้อคิดดี ๆ ที่นำมาฝาก
“คนเรา ทำชั่วได้ทุกนาที
แต่พอจะทำดี ต้องหาฤกษ์”