บทความ
 เคมี (Chemistry)
 สู่อิสรภาพทางการเงิน (To Financial Freedom)
 การคำนวณ และออกแบบ (Calculation and design)
 เทคโนโลยีการเกษตร (Agricultural Technology)
 เครื่องมือกล (Machine tools)
 Laws of Nature
 อวกาศ
 พลังงาน
 อิเล็กทรอนิกส์
 ทฤษฏีสัมพัทธภาพ
 ไครโอเจนิกส์
 เฮลิคอปเตอร์
 เกียร์อัตโนมัติ
 โทรศัพท์มือถือ
 ยาง
 รถไฟความเร็วสูง
 คลัตช์ และกระปุกเกียร์ธรรมดา
 เจ็ทแพ็ค
 แผ่นดินไหว
 คู่มือ ต้องรอด
 โรงไฟฟ้าพลังน้ำ
 ดาวเทียม
 เชื่อมโลหะใต้น้ำ
 กังหันลมผลิตไฟฟ้า
 เครื่องยนต์ดีเซล
 เครื่องยนต์เบนซิน
 คัมภีร์สงครามซุนวู ฉบับเข้าใจง่าย
 โลหะ
 ฟิสิกส์
 ปัญหาพระยามิลินท์
 ยานยนต์สมัยใหม่
 แมคาทรอนิกส์
 เครื่องกล 6 แกน
 เครื่องยนต์เจ็ท
 หุ่นยนต์
 สินค้า ผลงาน
 เขียนแบบ
 ออกแบบ คำนวณ
 วางโครงการ
 งานโลหะ
 อุปกรณ์
 เครื่องกล
วันนี้ 1,535
เมื่อวาน 984
สัปดาห์นี้ 12,564
สัปดาห์ก่อน 29,853
เดือนนี้ 59,721
เดือนก่อน 65,987
ทั้งหมด 4,874,973
  Your IP :3.15.7.212

1.3 แหล่งปิโตรเลียม

 

      เชื้อเพลิงส่วนใหญ่ที่ใช้ในการขนส่งเป็นเชื้อเพลิงเหลวที่ได้จากปิโตรเลียม (Petroleum) มันเป็นผลิตเชื้อเพลิงฟอสซิล (Fossil fuel) ที่ได้จากการเน่าเปื่อยของซากพืชซากสัตว์ ที่ถูกทับถมกันเป็นเวลายาวนานนับล้าน ๆ ปี (อาจถึง 400 – 600 ล้านปี) แล้วถูกฝังอยู่ภายใต้ชั้นดินชั้นหินใต้พื้นโลก

 

รูปการขุดน้ำมันดิบจากแหล่งบนบก

แนะนำเพื่อให้อ่านได้ต่อเนื่องให้ คลิกขวาเลือก Open link in new window

 

รูปการขุดปิโตรเลียมจากบนบก

 

รูปแทนขุดปิโตรเลียมกลางทะเล

 

รูปน้ำมันดิบ

 

      กระบวนการอย่างคร่าว ๆ ก็คือ สิ่งมีชีวิต (ส่วนใหญ่เป็นซากพืช) ตายลง และค่อย ๆ ถูกปกคลุมทับถมกันอย่างช้า ๆ เป็นแบบตะกอน นานวันไป ตะกอนถูกสะสมเหล่านี้อยู่ในรูปแบบที่เป็นชั้นหนา และเปลี่ยนไปเป็นหิน สิ่งที่ตายเหล่านี้ จะถูกกักเก็บอย่างมิดชิด มักพบในบริเวณที่มีความดัน และอุณหภูมิสูง

 

รูปการขุดน้ำมันดิบใต้ดินที่เกิดจากซากฟอสซิล

 

รูปผลิตภัณฑ์จากปิโตรเลียมที่เป็นถ่านหิน และสารไฮโดรคาร์บอน

 

      กระบวนการการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นอย่างช้า ๆ ซึ่งตามสภาพธรรมชาติมันจะเกิดเป็นไปในรูปแบบของสารไฮโดรคาร์บอน หรือถ่านหิน (Coal) ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมบริเวณนั้น ๆ กระบวนการเหล่านี้ใช้เวลานับล้าน ๆ ปีถึงจะสำเร็จ ผลที่ได้ก็คือทำให้เกิดแหล่งทรัพยากรของโลก ที่เป็นของแหล่งเชื้อเพลิงฟอสซิล

 

รูปซากฟอสซิลที่ทับถมใต้พื้นดินจนเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม

 

      ปริมาณสำรองพิสูจน์แล้ว (Proved reserves) คือ ปริมาณในทางธรณีวิทยา และทางวิศวกรรม ข้อมูลได้แสดงออกอย่างเหมาะสมด้วยความมั่นใจว่าสามารถนำมาใช้ได้ในอนาคต จากแหล่งที่กำลังดำเนินการอยู่

 

      แต่ข้อมูลเหล่านั้นก็ยังไม่ได้บอกถึง ปริมาณสำรองที่มีอยู่ทั้งหมดของโลก ตัวอย่างปริมาณสำรองที่พิสูจน์แล้ว ซึ่งแสดงไว้ในปิโตรเลียมของอังกฤษ ตัวเลขกำหนดเป็นพันล้านตัน

 

รูปแหล่งปริมาณสำรองที่พิสูจน์แล้วทั่วโลก

 

รูปตารางแหล่งพลังงานสำรองที่พิสูจน์แล้ว

 

น้ำมันที่สกัดได้ในปัจจุบันเป็นน้ำมันที่สกัดได้ง่าย ที่อยู่ที่พื้นผิว ในบริเวณสภาพอากาศที่ไม่ก่อให้เกิดปัญหาที่สำคัญ มีความเชื่อที่ว่าน้ำมันจะมีอยู่มากใต้เปลือกโลก ดังเช่นภูมิภาคไซบีเรีย, อเมริกา, แคนาดา และขั้วโลกเหนือ 

 

รูปแหล่งพลังงานปิโตรเลียมในทะเล

 

ในบริเวณเหล่านี้ทางสภาพภูมิอากาศ และนิเวศวิทยามักจะเป็นอุปสรรคในการสกัดแร่ หรือน้ำมัน ทำให้การประมาณการแหล่งสำรองทั้งหมดของโลกเป็นงานที่ยาก เพราะเนื่องจากเหตุผลทางด้านการเมือง และทางเทคนิค การสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐอเมริกา

 

      การบริโภคมีการเพิ่มขึ้นทุก ๆ ปี เพื่อให้ทันกับการเติบโตของประเทศที่กำลังพัฒนา และพัฒนาแล้ว การบริโภคมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก พร้อมกับการพัฒนาอย่างรวดเร็วของประเทศ ในกราฟ

 

รูปกราฟ การใช้น้ำมันในแต่ละบริเวณ

 

แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มในการบริโภคน้ำมันไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา ปริมาณการใช้น้ำมันคิดเป็นพันบาร์เรลต่อวัน (1 บาร์เรล ประมาณ  8 เมตริกตัน

 

      แม้จะมีการลดการบริโภคน้ำมันในยุโรปตะวันออก และอดีตสหภาพโซเวียต โลกก็ยังคงมีแนวโน้มการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ดังกราฟ

 

รูปกราฟ การใช้น้ำมันของโลก

 

ภูมิภาคที่มีการเติบโตเร็วที่สุดก็คือแถบภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่ซึ่งมีประชากรส่วนใหญ่ของโลกอาศัยอยู่ มีการใช้ทรัพยากรน้ำมันอย่างมากไปตามสัดส่วนการเพิ่มขึ้นของประชากร และแน่นอนการปล่อยมลพิษ และการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในภูมิภาคนี้ก็ย่อมเพิ่มสูงขึ้นไปด้วย

 

ข้อคิดดี ๆ ที่นำมาฝาก

 

“ไม่ต้องสนใจว่าแมวจะสีขาว หรือดำ ขอให้จับหนูได้ก็พอ”

เติ้งเสี่ยวผิง

 

 

 

 

 

 

Share on Facebook
 
Google

WWW
http://www.thummech.com/
ฟังเพลงออนไลน์ คลิกเลย
 
Copyright © 2013-2015 Thummech All Rights Reserved. 
Powered by  ThaiWebPlus 
คนธรรมดามีความรู้คือคนฉลาด คนฉลาดมีความเข้าใจคือคนธรรมดา