มีการพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถขึ้นจากเครื่องกลธรรมดา จนมาเป็นวิธีการนำเอาเทคนิคในอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่คิดค้นขึ้น เช่น การทำสำเนา (Copying) ชิ้นงาน, ลูกเบี้ยว (Cams), อุปกรณ์ยึด (Attachments) และกลไกอัตโนมัติ (Automatic mechanisms) มาใช้งาน
รูปตัวอย่างเครื่องกลึงสำเนาชิ้นงาน
ที่มา : https://www.scmgroup.com
แนะนำเพื่อให้อ่านได้ต่อเนื่องให้ คลิกขวาเลือก Open link in new window
หากสนใจหนังสือ อื่น ๆ นอกเหนือจากนี้
คลิก
เพื่อลดแรงงานที่ทำด้วยมือ, เพิ่มความเที่ยงตรงของชิ้นงาน และเพิ่มผลผลิต เครื่องวัดพลังงาน (Dynamometer) เครื่องมือกล
รูปตัวอย่างเครื่องวัดพลังงานที่ติดตั้งในเครื่องมือกล
ที่มา : https://www.mdpi.com
ถูกนำมาใช้กับเครื่องมือกลเพื่อทำการวัด, เฝ้าสังเกต และควบคุมแรงกระทำทั่วไปอันเนื่องมาจากการทำงานกับเครื่องกล เช่นการคำนวณแรงวิธีการของเข้าซองของเครื่องมือเพื่อเปลี่ยนมีด หรือแรงกระทำกับชิ้นงาน และยึดชิ้นงาน หรือยึดเครื่องมือให้ติดแน่นในการทำงาน เพื่อความแม่นยำของขนาดชิ้นงาน และเพื่อพื้นผิวชิ้นงานที่สมบูรณ์
รูป ตัวอย่างเครื่องวัดพลังงาน
ที่มา : http://www.eldigi.in
รูปตัวอย่างเครื่องกดอัดไฮดรอลิกส์ที่ใช้ระบบ NC
ที่มา : http://img.en.china.cn
ในปี พ.ศ. 2496 ได้เริ่มนำอุปกรณ์ควบคุมด้วยตัวเลข (Numerical Control: NC) มาใช้ เป็นการปูแนวทางไปสู่เทคโนโลยีของการใช้คอมพิวเตอร์ควบคุมด้วยตัวเลข (Computer Numerical Control: CNC) และการนำทางที่ควบคุมด้วยตัวเลข (Direct Numerical Control: DNC) ในเครื่องกลอเนกประสงค์ (Machining centers)
รูปเครื่องกลอเนกประสงค์ หรือแมชชีนนิ่งเซ็นเตอร์
ที่มา : https://industrychronicles.com
การวิวัฒนาการเหล่านี้ เป็นการพัฒนาปรับปรุงเพื่อให้ผลผลิตที่ได้มีขนาดที่แม่นยำ และสามารถทำการผลิตซ้ำ ๆ เป็นรูปแบบเดียวกันได้มากขึ้น
เครื่องมือกลมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีไปอย่างมาก เวลาที่ผ่านไปมีการพัฒนาโดยการใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นวงจรไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็ก (Microelectronics), ไมโครโปรเซสเซอร์ (Microprocessors) และระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาประยุกต์ใช้งานให้มีความทันสมัยมากขึ้น
ข้อคิดดี ๆ ที่นำมาฝาก
“เวลา ย้อนคืนไม่ได้
แต่ไม่สายที่จะเริ่มต้นใหม่
อะไรที่ผ่านไปแล้ว ก็ให้ผ่านไป
ให้เริ่มใหม่เพื่อชีวิตที่ดี”
@หราาา
<หน้าที่แล้ว สารบัญ หน้าต่อไป>