ความสามารถในการผลิต (Productivity) ของเครื่องมือกล วัดได้จากปริมาณชิ้นงานที่ผลิตได้ต่อหน่วยของเวลา ความสามารถของเครื่องมือกลจะส่งผลต่อการผลิตเป็นอย่างมาก ในการที่จะให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น เครื่องมือกลควรมีความสามารถดังนี้
1. การเพิ่มความเร็วรอบ (Speed) และอัตราการป้อน (Feed rates) ของเครื่องมือกล
2. การเพิ่มกำลังงานให้แก่เครื่องมือกล เพื่อให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้มากยิ่งขึ้น
3. เครื่องมือกลที่มีมีดตัด ที่สามารถตัดชิ้นงานได้หลายรูปแบบ
4. เวลาที่เครื่องมือกลหยุดทำงาน เช่น ช่วงรอชิ้นงาน หรือการปรับตั้งเครื่อง ในระหว่างเวลาทำการผลิต
5. ความเป็นอัตโนมัติ (Automation) ของเครื่องมือกล และเวลาการสับเปลี่ยนชิ้นงาน รวมทั้งมีดตัดที่เกิดขึ้น
รูประบบอัตโนมัติที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม
ที่มา : https://previews.123rf.com
แนะนำเพื่อให้อ่านได้ต่อเนื่องให้ คลิกขวาเลือก Open link in new window
สนใจหนังสือ และความรู้ของผู้เขียน
เรื่องอื่น ๆ มีทั้งโหลดได้ฟรี และราคาถูก นอกเหนือจากนี้
คลิก
มีหนังสือ ยานยนต์สมัยใหม่ (Modern vehicles) 2
ทำเป็นเล่ม อีบุ๊ค เพื่อสนับสนุนเว็บไซต์
รูปหน้าปกหนังสือ
สามารถโหลดอ่านตัวอย่างก่อนซื้อได้เลยครับ ฟรี
หากผู้อ่านสนใจ
คลิก
1. การเลือกใช้เทคนิคการควบคุมสมัยใหม่ เช่น NC และ CNC
รูปเครื่องกลึงซีเอ็นซี
ที่มา : https://www.lokeshmachines.com
2. การเลือกกระบวนการของเครื่องมือกลให้เหมาะสม ตั้งอยู่บนหลักการชิ้นส่วนวัสดุทางกล, รูปร่าง, ความซับซ้อน, ความละเอียด และผิวที่สมบูรณ์
3. การนำจิ๊ก และฟิกเจอร์ (Jigs & Fixtures) และนำอุปกรณ์จับยึด (Clamp) มาใช้งาน เพื่อให้ใช้เวลาได้น้อยที่สุด
รูปตัวอย่างจิ๊ก และฟิกเจอร์จับงาน
ที่มา : https://s3.amazonaws.com
เครื่องมือกลที่สร้างขึ้นมา เป็นการออกแบบเพื่อให้เกิดความสำเร็จสูงสุด ให้มันมีความสามารถในการผลิตที่เป็นไปได้ตามต้องการ และมีความละเอียดในการผลิตชิ้นงาน และเวลาที่ใช้ผลิตเป็นงานที่เสร็จแล้วเป็นไปตามที่ต้องการ
เพื่อสนองความต้องการเหล่านี้ ในเครื่องมือกลในแต่ละชนิดต้องมีการแบ่งการออกแบบ เพื่อให้ได้ค่าความแข็งแกร่งเท่าที่เป็นไปได้ มีการตรวจสอบสำหรับการสั่นพ้อง และความทนทาน
ข้อคิดดี ๆ ที่นำมาฝาก
“โลกทั้งโลก เปิดทางให้กับ
คนที่รู้ว่า ตัวเอง
จะเดินไปทางไหน
The whole world steps aside for the man who knows where he is going.”
Anonymous
<หน้าที่แล้ว สารบัญ หน้าต่อไป>