In English
ภาษาไทย ด้านล่างจ้า
จะพยายามเขียนเป็นภาษาอังกฤษด้วย เพื่อให้คนต่างชาติได้อ่าน ไวยากรณ์อาจดีไม่พอ ต้องขออภัย
(I’m so sorry if grammar May not be good enough. I will try.)
11. The Law of Karma of all beings Explain why are people born differently? The Law of Karma describes the worlds where animals are born.
Picture human
Source: https://www.euroweeklynews.com
Recommended for continuous reading, right-click, choose
If interested in other books; please
Click
12. Buddhism Emphasizing be compassionate to all sentient beings. Taught to refrain from all evil behavior, namely bad deeds 10 items and to practice according to merit 10 items.
(Merit 10 items (wholesome course of action) That by the following short topics.
a. bodily action 3 items.
1. Abstention from killing.
2. Abstention from taking what is not given.
3. Abstention from sexual misconduct.
b. Verbal action 4 items.
4. Abstention from false speech.
5. Abstention from tale-bearing.
6. Abstention from harsh speech.
7. Abstention from vain talk or gossip.
c. mental action 3 items.
8. Non-covetousness.
9. Non-illwill.
10.Right view.)
(Bad deeds 10 items: unwholesome course of action
a. bodily action 3 items.
1. destruction of life; killing.
2. taking what is not given; stealing.
3. sexual misconduct.
b. Verbal action 4 items.
4. false speech.
5. tale-bearing; malicious speech.
6. harsh speech.
7. frivolous talk; vain talk; gossip.
c. mental action 3 items.
8. covetousness; avarice.
9. illwill.
10. false view; wrong view.)
Picture Buddha statue
Source: http://media1.santabanta.com
13. Dharma of the Lord Buddha like a raft. After practicing until the end of suffering will rise above all merit and sin. All Dharma must not hold.
Picture a raft
Source: https://img4.goodfon.com
14. No holy war in the Buddhist viewpoint: Killing sentient beings for cutting lives, harassing others with intent the doer must receive all karma. Until liberation from the cycle of birth and death. Killing in the name of religion. Do not do it in Buddhism.
There is no holy war in Buddhism
Source: https://img00.deviantart.net
15. The Lord Buddha taught Origin of samsara No begin and end, if the all sentient beings still lives according to the power of passion. Ignorance is a barrier, Lustful as a upheld; must naturally continue to Cycle of birth and death.
Picture Cycle of birth and death all sentient beings
Source: http://www.godprinciple.com
16. The Lord Buddha is omniscience. (The one who knows all the truth he wants to know) and the Lord Buddha Not a god with power overflowing Aspire to create various nature.
Picture Buddha statue
Source: https://stat.homeshop18.com
17. Meditation Very important in Buddhism. Although other religions are taught to concentrate but only Buddhism teaches Vipassana Meditation (Insight meditation) which is an important factor about that enlightened everything, when there is happening, existing and ending.
Picture Vipassana Meditation
Source: https://www.ananda.org
18. The doctrine of Emptiness or Nirvana is unique in Buddhism. Considered as a high level teachings of Buddhism too.
For all things around the world there is no permanent thing. There are only factors of earth, water, fire, wind assembled into everything in the world. Therefore fall into a state of impermanence, subject to suffering, and non-self all the same.
Buddhism is not extreme, according to religion or theism or materialism. That has ignorance is a barrier, Lustful as a upheld; must naturally continue to Cycle of birth and death. Until attaining Dhamma and thus extinguishing the cold into Nirvana
What is nirvana?
Source: https://slideplayer.com
19. Cycle or samsara Is a teaching in Buddhism As long as the beings Not yet liberated from passion. They will round of existences to the various worlds, according to the centrifugal force of karma, not an end until the dharma is achieved
Therefore, all beings must help themselves. To develop threefold to be liberated from greed, hate, and illusion or ignorance for liberation from samsara.
Picture liberation from samsara
Source: https://exploringyourmind.com
ภาษาไทย
๑๑.กฎแห่งกรรมของทุกสรรพสัตว์ เป็นตัวอธิบายว่า เหตุใดคนถึงเกิดมาแตกต่างกัน กฎแห่งกรรมเป็นตัวอธิบายถึงภพภูมิที่สัตว์พากันไปเกิด
รูปมนุษย์
ที่มา : https://www.euroweeklynews.com
แนะนำเพื่อให้อ่านได้ต่อเนื่องให้ คลิกขวาเลือก Open link in new window
หากสนใจหนังสือ อื่น ๆ นอกเหนือจากนี้
คลิก
๑๒.พระพุทธศาสนา เน้นให้แผ่เมตตากรุณาไปยังสรรพสัตว์ ทุกภพภูมิ ทรงสอนให้ละจากการประพฤติชั่วทั้งปวง คือ อกุศลกรรมบท ๑๐ และให้ประพฤติปฏิบัติแต่ กุศลกรรมบท ๑๐
(กุศลกรรมบท ๑๐ (ทางแห่งกุศลกรรม, ทางทำความดี, กรรมดีอันเป็นทางนำไปสู่สุคติ ว่าโดยหัวข้อย่อ ดังนี้
ก. กายกรรม ๓ (การกระทำทางกาย)
๑. ปาณาติปาตา เวรมณี* (เว้นจากปลงชีวิต)
*เวรมณี แปลว่า เจตนาที่ทำให้เว้น หรือ เจตนาที่ตรงข้าม เมื่อจะแปลให้เต็มความ จึงควรแปลว่า การกระทำที่ว่างจากการคิดเบียดเบียน หรือ การทำดีที่ตรงข้ามกับการเบียดเบียนชีวิต ดังนี้เป็นต้น
๒. อทินนาทานา เวรมณี (เว้นจากถือเอาของที่เขามิได้ให้โดยอาการขโมย )
๓. กาเมสุ มิจฉาจารา เวรมณี (เว้นจากประพฤติผิดในกาม)
ข. วจีกรรม ๔ (การกระทำทางวาจา )
๔. มุสาวาทา เวรมณี (เว้นจากพูดเท็จ )
๕. ปิสุณาย วาจาย เวรมณี (เว้นจากพูดส่อเสียด)
๖. ผรุสาย วาจาย เวรมณี (เว้นจากพูดคำหยาบ)
๗. สัมผัปปลาปา เวรมณี (เว้นจากพูดเพ้อเจ้อ)
ค. มโนกรรม 3 (การกระทำทางใจ —)
๘. อนภิชฌา (ความไม่คิดเพ่งเล็งอยากได้ของเขา)
๙. อพยาบาท (ความไม่คิดร้ายผู้อื่น)
๑๐. สัมมาทิฏฐิ (ความเห็นชอบ ถูกต้องตามคลองธรรม))
(อกุศลกรรมบถ ๑๐ (ทางแห่งอกุศลกรรม, ทางทำความชั่ว, กรรมชั่วอันเป็นทางนำไปสู่ความเสื่อม ความทุกข์ หรือทุคติ)
ก. กายกรรม ๓ (การกระทำทางกาย)
๑. ปาณาติบาต (การทำชีวิตให้ตกล่วง, ปลงชีวิต)
๒. อทินนาทาน (การถือเอาของที่เขามิได้ให้ โดยอาการขโมย, ลักทรัพย์)
๓. กาเมสุมิจฉาจาร (ความประพฤติผิดในกาม)
ข. วจีกรรม ๔ (การกระทำทางวาจา)
๔. มุสาวาท (การพูดเท็จ)
๕. ปิสุณาวาจา (วาจาส่อเสียด)
๖. ผรุสวาจา (วาจาหยาบ)
๗. สัมผัปปลาปะ (คำพูดเพ้อเจ้อ)
ค. มโนกรรม ๓ (การกระทำทางใจ)
๘. อภิชฌา (เพ่งเล็งอยากได้ของเขา)
๙. พยาบาท (คิดร้ายผู้อื่น)
๑๐. มิจฉาทิฏฐิ (เห็นผิดจากคลองธรรม))
รูปพระพุทธรูป
ที่มา : http://media1.santabanta.com
๑๓.ธรรมะของพระพุทธเจ้า เสมือนแพ หลังจากบำเพ็ญเพียรจนดับทุกข์ได้แล้ว จะอยู่เหนือบุญ และบาป ธรรมะทั้งปวงจะต้องไม่ยึดมั่นถือมั่น
รูปแพ
ที่มา : https://img4.goodfon.com
๑๔.ไม่มีสงครามศักดิ์สิทธิ์ ในทรรศนะพระพุทธศาสนา การฆ่าสัตว์ตัดชีวิต การเบียดเบียนผู้อื่นด้วยเจตนา ผู้กระทำจะต้องรับกรรมทั้งสิ้น จนกว่าจะหลุดพ้นจากวัฏสงสาร การฆ่าในนามศาสนา ยิ่งกระทำมิได้ในพระพุทธศาสนา
รูปสงครามศาสนาไม่มีในศาสนาพุทธ
ที่มา : https://img00.deviantart.net
๑๕.พระพุทธเจ้าสอนว่า กำเนิดสังสารวัฏ ไม่มีเบื้องต้น และที่สุด ถ้าหากสัตว์ยังดำเนินชีวิตไปตามอำนาจกิเลสที่มี อวิชชาเป็นเครื่องกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูก ย่อมต้องเวียนเกิดเวียนตายต่อไป
รูปวัฏจักรการเวียนว่ายตายเกิดของสรรพสิ่ง
ที่มา : http://www.godprinciple.com
๑๖.พระพุทธเจ้า ทรงเป็นพระสัพพัญญู (ผู้รู้ความจริงทุกเรื่องที่ทรงอยากรู้ ) และพระพุทธเจ้า มิใช่เทพเจ้าผู้ทรงมีอำนาจล้นฟ้า ดลบันดาลสร้างธรรมชาติต่าง ๆ ขึ้นมา
รูปพระพุทธรูป
ที่มา : https://stat.homeshop18.com
๑๗.การฝึกสมาธิ สำคัญมากในพระพุทธศาสนา แม้ว่าศาสนาอื่น ๆ ก็มีสอนให้คนมีสมาธิ แต่มีพระพุทธศาสนาเท่านั้นที่สอน วิปัสสนา ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้รู้แจ้งว่า ทุกสรรพสิ่ง เมื่อมีการเกิด มีตั้งอยู่ และย่อมมีการดับ
รูปการเจริญสมาธิวิปัสสนา
ที่มา : https://www.ananda.org
๑๘.หลักคำสอนเรื่อง สุญญตา หรือ นิพพาน เป็นเอกลักษณ์เฉพาะในพระพุทธศาสนา ถือเป็นคำสอนระดับสูงของพระพุทธศาสนาด้วย
เพราะสรรพสิ่งทั้งหลายทั่วโลกธาตุ ไม่มีสิ่งใด เที่ยงแท้ถาวร มีแต่ปัจจัย ดิน น้ำ ไฟ ลม ประกอบกัน สรรพสิ่งในโลก จึงตกอยู่ในภาวะอนิจจัง ทุกขัง และอนัตตา เหมือนกันหมด
พระพุทธศาสนาจึงไม่สุดโต่งไปตามแนวศาสนาประเภทเทวนิยม หรือ ตามแนววัตถุนิยม ที่มีอวิชชาเป็นเครื่องกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูก ที่ต้องเวียนเกิดเวียนตาย จนกว่าจะบรรลุธรรม จึงจะดับเย็น เข้าสู่นิพพาน
รูปนิพพาน
ที่มา : https://slideplayer.com
๑๙.วัฏจักร หรือสังสารวัฏ เป็นคำสอนในพระพุทธศาสนา ตราบใดที่สรรพสัตว์ ยังไม่หลุดพ้นจากกิเลส ก็จะเวียนว่ายตายเกิด ไปตามภพภูมิต่าง ๆ ตามแรงเหวี่ยงของกรรม ไม่สิ้นสุด จนกว่าจะบรรลุธรรม
ดังนั้น ทุกสรรพสัตว์ จึงต้องช่วยตนเอง เพื่อพัฒนาไตรสิกขา ให้หลุดพ้นจากโลภะ โทสะ และโมหะ หรืออวิชชา เพื่อการหลุดพ้นจากสังสารวัฏให้ได้ ฯ
รูปการเพียรพยายามให้หลุดพ้นจากสังสารวัฏ
ที่มา : https://exploringyourmind.com
<หน้าที่แล้ว สารบัญ หน้าต่อไป>