มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในชั้นบรรยากาศที่เรายังไม่รู้ แต่มันจะผ่านการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเนื่องจากเกิดการสร้างขึ้นของคาร์บอนไดออกไซด์จากกระบวนการอุตสาหกรรม เรารู้ว่าสภาพในอดีตเป็นอย่างไรดูได้จากการบันทึกทางธรณีวิทยา / ชั้นหิน
รูปตัวอย่างชั้นหิน
ที่มา : https://cdn.pixabay.com
แนะนำเพื่อให้อ่านได้ต่อเนื่องให้ คลิกขวาเลือก Open link in new window
หากสนใจหนังสือ อื่น ๆ นอกเหนือจากนี้
คลิก
หนังสือที่เกี่ยวข้องกับอวกาศ หากสนใจ
คลิก
เราเห็นวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตได้จากฟอสซิล เราเห็นสภาพก่อนหน้านี้ที่มีอยู่ในหินที่มีอยู่ หินบางประเภทมีอายุมาหลายพันล้านปีมาแล้ว จะไม่ก่อตัวขึ้นในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยออกซิเจน มันบอกว่าการปรากฏตัวของชีวิตตัวมันเองเป็นเพราะบรรยากาศเริ่มแรกที่มีออกซิเจนน้อย
รูปตัวอย่างซากฟอสซิล
ที่มา : https://www.desertmajesty.com
ในขณะที่มันจะมีประโยชน์มากสำหรับชีวิตที่ต้องใช้ออกซิเจนชอบที่จะผูกไปกับองค์ประกอบอื่น ๆ หากมีอยู่ในปริมาณสูงขึ้นในช่วงต้นของประวัติศาสตร์โลก มันอาจมีการปกป้องกันเป็นแบบโมเลกุลลูกโซ่ที่มีความสลับซับซ้อนจากรูปแบบที่ต่อไปจะกลายเป็นชีวิตที่จำลองตัวเอง
เฉกเช่นเดียวกับโลก ที่ดวงอาทิตย์ยังคงมีวิวัฒนาการ และไม่คงที่ ดังที่แสดงในตารางที่ 1.5.2
สเกลเวลาสำหรับดวงอาทิตย์
|
104 วินาที
|
การพาความร้อนที่พื้นผิว
|
105 – 106 วินาที
|
เกิดความผันผวนของเปลวสุริยะ
|
2 ´106 วินาที
|
การแผ่รังสีของดวงอาทิตย์
|
107 – 108 วินาที
|
วัฏจักรของแม่เหล็ก
|
1015 – 1016 วินาที
|
การส่งพลังงาน เกิดการเปลี่ยนแปลงในแกนกลาง
|
1017 วินาที
|
อายุของดวงอาทิตย์ (4.5 พันล้านปี)
|
2 ´1017 วินาที
|
ดวงอาทิตย์กลายเป็นดาวยักษ์สีแดง / เกิดเป็นความตายของดาวฤกษ์ ภายในระบบสุริยะถูกทำลาย
|
ตารางที่ 1.5.2 สเกลเวลาของดวงอาทิตย์
พื้นผิวของมันถูกควบคุมโดยการพาความร้อน (ก๊าซร้อนที่เพิ่มขึ้นจากด้านล่างปล่อยพลังงานที่เราเห็นว่าเป็นแสง) ในลักษณะเดียวกับที่สภาพอากาศบนโลกที่ถูกควบคุมโดยเซลล์พาความร้อน
รูปเปลวสุริยะในดวงอาทิตย์
ที่มา : https://wallpaperaccess.com
ดวงอาทิตย์ ยังเกิดมีพายะที่เรียกว่า เปลวสุริยะ (Solar flares) พายุอาจมีขนาดใหญ่กว่าโลก และบางครั้งหากเกิดใหญ่มาก ๆ อาจส่งผลต่อโลก
ดวงอาทิตย์ก็หมุนรอบตัวเองเช่นกัน ระยะเวลาในการหมุนรอบตัวเองประมาณ 27 วัน (ประมาณ 2 ล้านวินาที) และสนามแม่เหล็กของมันจะพลิกขั้วทุก ๆ 11 ปี วัสดุสสารจากแกนกลางสามารถเคลื่อนที่ขึ้นมายังพื้นผิวได้ แต่จะใช้เวลานานหลายแสนปี
สุดท้าย ดวงอาทิตย์ไม่สามารถคงอยู่ได้ตลอดไป เพราะมันจะต้องเปล่งพลังงานออกมาอย่างต่อเนื่อง ความเป็นจริงในปัจจุบัน มันได้ผ่านมาครึ่งทางแล้วในอายุของมันในวัฏจักรที่จะปล่อยกำลังงาน เมื่อพลังงานหมด ดวงอาทิตย์ก็จะกลายเป็นดาวยักษ์สีแดง (Red Giant)
รูปตัวอย่างการจำลองดาวยักษ์สีแดง
ที่มา : http://www.physics.usyd.edu.au
ด้วยบรรยากาศรอบนอกของมันจะใหญ่มากคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ อาจจะขยายคลุมไปสู่ดาวเคราะห์ใกล้เคียง ณ จุดนี้ โลกก็จะมาถึงจุดอวสาน ดังนั้นชะตากรรมของเราจะเชื่อมโยงกับดวงอาทิตย์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ข้อคิดดี ๆ ที่นำมาฝาก
“อะไรที่เรามองว่าดี
เราก็จะทำมัน อย่างเต็มที่เสมอ
If you call a thing bad you do little,
if you call a thing good you do much.”
Johann Wolf gang von Goethe
<หน้าที่แล้ว สารบัญ หน้าต่อไป>