1.2 ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ กับอวกาศ
นับตั้งแต่มีมนุษย์เกิดขึ้นบนโลก คนในทุกยุคทุกสมัย มักมองขึ้นไปบนฟ้ายามค่ำคืน และสงสัยว่าจะมีอะไรออกมาหรือเปล่าในพื้นที่ที่ไม่มีแสง มีเพียง ทางช้างเผือก (Milky way) เป็นจุดเด่นในท้องฟ้ายามราตรี รูปด้านล่าง
รูปทางช้างเผือก
แนะนำเพื่อให้อ่านได้ต่อเนื่องให้ คลิกขวาเลือก Open link in new window
นักดาราศาสตร์ในยุคแรก ๆ ทางยุโรป, อเมริกากลาง และอเมริกาใต้ (ประมาณ 3000 ปีก่อนคริสตกาล) ได้บันทึกข้อมูล ข้อสังเกตไว้ในรูปแบบของการสร้างผังเพื่อที่ติดตามดวงอาทิตย์ และในบางกรณี การทำเครื่องหมายเอาไว้ เช่นในนิวแกรงจ์ (Newgrange) ในประเทศไอร์แลนด์, สโตนเฮนจ์ (Stonehenge) ในประเทศอังกฤษ
รูปนิวแกรงจ์ ในประเทศไอร์แลนด์
รูปสโตนเฮนจ์ ในประเทศอังกฤษ
ภูมิภาคอาหรับ (รวมทั้งเปอร์เซีย, กรีซ, แอฟริกาเหนือ) เป็นศูนย์กลางของการสังเกต และการวิจัยทางดาราศาสตร์ หลายกลุ่มที่เรารู้จักในวันนี้ได้รับการกล่าวถึงในงานเขียนของกรีก และบาบิโลนในช่วงต้น ดาวฤกษ์ส่วนใหญ่ที่เราใช้ชื่อในปัจจุบัน มาจากชื่อภาษาอาหรับที่นักดาราศาสตร์ชาวเปอร์เซียกล่าว
จากที่เขียนตอนต้นแสดงให้เห็นว่า การสังเกตทางดาราศาสตร์ที่ใช้งานผ่านทางประวัติศาสตร์ที่บันทึกไว้ในช่วงต้นของจีน ผู้ปกครองจีนยุคแรก ๆ พยายามแสวงหาความร่วมมือกับนักดาราศาสตร์ชาวอินเดีย และชาวอาหรับ นักดาราศาสตร์จีนยังได้บันทึกซูเปอร์โนวา (Supernova) ในปี พ.ศ. 1597 ที่นักวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันเรียกซูเปอร์โนวานี้ว่า เนบิวล่าปู (Crab Nebula)
รูปชาวจีนบันทึกซูเปอร์โนวา
รูปซูเปอร์โนวา ชื่อว่า เนบิวล่าปู
วัตถุหลายอย่างในท้องฟ้ายามค่ำถูกแบ่ง และจัดทำขึ้นโดยนักดาราศาสตร์ชาวฝรั่งเศสชื่อ ชาร์ลเมสสิเออ (Charles Messier) ในระหว่างปี พ.ศ. 2273 – 2360
รูปชาร์ลเมสสิเออ
เขาค้นพบวัตถุ 100 ชนิดที่เรารู้จัก ตั้งแต่กาแล็กซี่ไปจนถึงเนบิวล่าภายในกาแล็กซี่ของเราเอง ในขณะนั้นไม่ทราบว่าจักรวาลของเราประกอบด้วยกาแล็กซี่หลายพันล้านกาแล็กซี่ ได้สังเกตดาวฤกษ์บางชนิด โดยเฉพาะเอ็ดเวิร์ด ฮับเบิล (Edwin Hubble) ในทศวรรษที่ 1920 สำหรับชุมชนวิทยาศาสตร์เพื่อยอมรับว่า วัตถุหลายอย่างอยู่นอกกาแล็กซี่ของเรา
รูปเอ็ดเวิร์ด ฮับเบิล
ข้อคิดดี ๆ ที่นำมาฝาก
“ภูมิปัญญาแห่งความสำเร็จ
ไม่มีอะไรที่ยิ่งใหญ่ไปกว่า
การทำความดี
โดยไม่คำนึงถึงชื่อเสียง”
Henry Wadsworth Longfellow
<หน้าที่แล้ว สารบัญ หน้าต่อไป>
|