บทความ
 เคมี (Chemistry)
 สู่อิสรภาพทางการเงิน (To Financial Freedom)
 การคำนวณ และออกแบบ (Calculation and design)
 เทคโนโลยีการเกษตร (Agricultural Technology)
 เครื่องมือกล (Machine tools)
 Laws of Nature
 อวกาศ
 พลังงาน
 อิเล็กทรอนิกส์
 ทฤษฏีสัมพัทธภาพ
 ไครโอเจนิกส์
 เฮลิคอปเตอร์
 เกียร์อัตโนมัติ
 โทรศัพท์มือถือ
 ยาง
 รถไฟความเร็วสูง
 คลัตช์ และกระปุกเกียร์ธรรมดา
 เจ็ทแพ็ค
 แผ่นดินไหว
 คู่มือ ต้องรอด
 โรงไฟฟ้าพลังน้ำ
 ดาวเทียม
 เชื่อมโลหะใต้น้ำ
 กังหันลมผลิตไฟฟ้า
 เครื่องยนต์ดีเซล
 เครื่องยนต์เบนซิน
 คัมภีร์สงครามซุนวู ฉบับเข้าใจง่าย
 โลหะ
 ฟิสิกส์
 ปัญหาพระยามิลินท์
 ยานยนต์สมัยใหม่
 แมคาทรอนิกส์
 เครื่องกล 6 แกน
 เครื่องยนต์เจ็ท
 หุ่นยนต์
 สินค้า ผลงาน
 เขียนแบบ
 ออกแบบ คำนวณ
 วางโครงการ
 งานโลหะ
 อุปกรณ์
 เครื่องกล
วันนี้ 8
เมื่อวาน 2,677
สัปดาห์นี้ 12,312
สัปดาห์ก่อน 14,200
เดือนนี้ 42,775
เดือนก่อน 76,883
ทั้งหมด 4,934,910
  Your IP :3.144.96.92

โปรโมทหนังสือ

 

ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2 (จบ)

 

รูปหน้าปกหนังสือ

แนะนำเพื่อให้อ่านได้ต่อเนื่องให้ คลิกขวาเลือก Open link in new window

 

สนใจหนังสือ และความรู้ของผู้เขียน

เรื่องอื่น ๆ มีทั้งโหลดได้ฟรี และราคาถูก นอกเหนือจากนี้ 

 

คลิก 

 

มีหนังสือ ดวงดาว และอวกาศ (Stars & Space) 2

ทำเป็นเล่ม อีบุ๊ค เพื่อสนับสนุนเว็บไซต์

 

สามารถโหลดอ่านตัวอย่างก่อนซื้อได้เลยครับ ฟรี

หากผู้อ่านสนใจคลิกที่ชื่อสำนักพิมพ์

 

meb          Se-ed

      ในที่สุดมันจะไหลไปถึงจุดที่ความดันก๊าซ, สนามแม่เหล็กของสสารระหว่างดวงดาว กับลมสุริยะเจอกัน จนเข้าสู่กระบวนการปรับสมดุลของความดันก๊าซ และสนามแม่เหล็กจากลมสุริยะ บริเวณขอบเขตนั้นเรียกว่า เฮลิโอพอส (Heliopause) ดูที่รูป 1.12

 

ข้อสังเกต: ฝุ่นระหว่างดาวเคราะห์ หรือ สสารระหว่างดาวเคราะห์ (Interplanetary dust cloud หรือ Interplanetary medium) เป็นฝุ่นจักรวาลชนิดหนึ่ง ที่แผ่กระจายอยู่ทั่วอวกาศระหว่างดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ หรือในระบบดาวเคราะห์อื่น ๆ

 

        มีการเฝ้าศึกษาฝุ่นเหล่านี้มาหลายปีแล้ว เพื่อทำความเข้าใจถึงธรรมชาติ ต้นกำเนิด และความสัมพันธ์ของมัน แล้วนำมาเทียบกับวัตถุขนาดใหญ่อื่น ๆ

 

 

รูปที่ 1.13 ฝุ่นระหว่างดาวเคราะห์

ที่มา : https://rocketstem.b-cdn.net

 

สำหรับในระบบสุริยะจักรวาลของเรา ฝุ่นระหว่างดาวเคราะห์เหล่านี้ ทำให้แสงอาทิตย์เกิดการกระเจิง ที่เรียกกันว่า แสงจักรราศี (Zodiac light) ซึ่งจะเกิดขึ้นในแนววงโคจรสุริยะ นอกจากนี้มันยังแผ่รังสีความร้อนออกมาที่ครอบคลุมไปทั่วท้องฟ้ายามราตรี ในช่วงความยาวคลื่นประมาณ 5 – 50 ไมโครเมตร

 

        ฝุ่นที่ทำให้เกิดการแผ่รังสีอินฟราเรด ในบริเวณที่ใกล้เส้นทางโคจรของโลก จะมีขนาดความยาวคลื่นประมาณ 10 – 100 ไมโครเมตร มวลรวมทั้งหมดของฝุ่นระหว่างดาวเคราะห์ มีประมาณเท่ากับมวลของดาวเคราะห์น้อยที่มีรัศมีความกว้างประมาณ 15 กิโลเมตร (ที่ความหนาแน่นราว 2.5 กรัม/ลบ.ซม.)

 

      ภายในเฮลิโอพอส พลาสมา และสนามแม่เหล็กเกือบทั้งหมด เป็นจุดกำเนิดของระบบสุริยะ ส่วนด้านนอกของเฮลิโอพอส พลาสมา และสนามแม่เหล็กทั้งหมด จะเป็นส่วนกำเนิดของกาแล็กซี

 

      มีความเป็นไปได้ที่จะมีเขตแดน นอกเฮลิโอพอสอีกส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ส่วนคลื่นโค้งกระแทก หรือคลื่นโบว์ ช็อก (Bow shock)

 

      หากระบบสุริยะจักรวาลของเรา เดินทางผ่านสสารระหว่างดวงดาวด้วยความเร็วสัมพัทธ์ที่เร็วกว่าความเร็วเสียง คลื่นช็อกจะก่อตัวรอบระบบสุริยะ

 

 

รูปที่ 1.14 การเคลื่อนที่ของลมสุริยะผ่านส่วนต่าง ๆ

ที่มา : https://www.nasa.gov

 

      คล้ายกับการเกิด คลื่นกระแทก หรือโซนิคบูม (Sonic boom) รอบตัวเครื่องบิน ที่บินด้วย ความเร็วเหนือเสียง (Supersonic speeds) บนโลก 

 

 

รูปที่ 1.15 การเกิดคลื่นกระแทกขณะที่เครื่องบิน บินด้วยความเร็วเหนือเสียง

ที่มา : https://artofthestate.files.wordpress.com

 

      เราไม่สามารถบอกได้ว่า จะเกิดโบว์ ช็อกขึ้นหรือไม่ เพราะว่า เราไม่รู้สภาวะสสารระหว่างดวงดาว คืออะไร เพราะว่ามันไม่ใช่ประเภทของโครงสร้างที่จะสามารถสังเกตได้โดยตรง ด้วยเทคนิคการตรวจจับระยะไกลจากบนโลก

 

      ฟองของพลาสมา และสนามแม่เหล็กที่แผ่ออกมาจากดวงอาทิตย์ และถูกแนวกันชนโดย สสารระหว่างดวงดาว เราเรียกว่า เฮลิโอสเฟียร์ (Heliosphere: หมายถึง ผลที่มาจากดวงอาทิตย์ มีลักษณะคล้ายฟองอากาศอยู่ในห้วงอวกาศ ที่พองตัวอยู่ในสสารระหว่างดวงดาว ซึ่งเป็นผลจากลมสุริยะ

 

          มันทำหน้าที่ปกป้องระบบสุริยะเอาไว้จากรังสีคอสมิค แม้จะมีอะตอมที่เป็นกลางทางไฟฟ้าส่วนหนึ่งจากสสารระหว่างดวงดาว ก็สามารถลอดเข้ามาภายในเฮลิโอสเฟียร์ได้ แต่โดยทั่วไปแล้วสสารส่วนใหญ่ที่อยู่ภายในเฮลิโอสเฟียร์ล้วนมีต้นกำเนิดมาจากดวงอาทิตย์ทั้งสิ้น)

       

 

รูปที่ 1.16 เป็นค่าประมาณการที่ดีที่สุด เกี่ยวกับที่ตั้งของขอบเขตของเฮลิโอสเฟียส์เทียบกับตำแหน่งของดาวเคราะห์ในระบบสุริยะจักรวาล สังเกตว่า ระยะทางเทียบเป็นมาตราส่วน บันทึกในหน่วยของ AU

ที่มา : https://imagecache.jpl.nasa.gov

 

AU = หน่วยดาราศาสตร์ (Astronomical Unit: au, a.u., ua) คือ หน่วยของระยะทาง (ค่าโดยประมาณ) เท่ากับระยะห่างระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์ ค่าที่ยอมรับในปัจจุบัน เท่ากับ 149,597,870,691±30 เมตร (ประมาณ 150 ล้านกิโลเมตร หรือ 93 ล้านไมล์)

 

      ในรูปที่ 1.16 ด้านบน เป็นการแสดงค่าประมาณการที่ดีที่สุดของมนุษย์เรา สำหรับอาณาบริเวณของแต่ละขอบเขตชั้นภายในเฮลิโอสเฟียร์

 

 

 

 

 

ข้อคิดดี ๆ ที่นำมาฝาก

 

ความสุข ถ้าแบ่งปันกัน ก็จะเพิ่มเป็นสองเท่า

แต่

ความทุกข์ ถ้าแบ่งปันกันจะลดเหลือครึ่งหนึ่ง

Happiness, if shared it will double.

But

Suffering, if shared, will be reduced to half.

นิรนาม

 

<หน้าที่แล้ว                                 สารบัญ

Share on Facebook
 
Google

WWW
http://www.thummech.com/
ฟังเพลงออนไลน์ คลิกเลย
 
Copyright © 2013-2015 Thummech All Rights Reserved. 
Powered by  ThaiWebPlus 
คนธรรมดามีความรู้คือคนฉลาด คนฉลาดมีความเข้าใจคือคนธรรมดา