บทความ
 เคมี (Chemistry)
 สู่อิสรภาพทางการเงิน (To Financial Freedom)
 การคำนวณ และออกแบบ (Calculation and design)
 เทคโนโลยีการเกษตร (Agricultural Technology)
 เครื่องมือกล (Machine tools)
 Laws of Nature
 อวกาศ
 พลังงาน
 อิเล็กทรอนิกส์
 ทฤษฏีสัมพัทธภาพ
 ไครโอเจนิกส์
 เฮลิคอปเตอร์
 เกียร์อัตโนมัติ
 โทรศัพท์มือถือ
 ยาง
 รถไฟความเร็วสูง
 คลัตช์ และกระปุกเกียร์ธรรมดา
 เจ็ทแพ็ค
 แผ่นดินไหว
 คู่มือ ต้องรอด
 โรงไฟฟ้าพลังน้ำ
 ดาวเทียม
 เชื่อมโลหะใต้น้ำ
 กังหันลมผลิตไฟฟ้า
 เครื่องยนต์ดีเซล
 เครื่องยนต์เบนซิน
 คัมภีร์สงครามซุนวู ฉบับเข้าใจง่าย
 โลหะ
 ฟิสิกส์
 ปัญหาพระยามิลินท์
 ยานยนต์สมัยใหม่
 แมคาทรอนิกส์
 เครื่องกล 6 แกน
 เครื่องยนต์เจ็ท
 หุ่นยนต์
 สินค้า ผลงาน
 เขียนแบบ
 ออกแบบ คำนวณ
 วางโครงการ
 งานโลหะ
 อุปกรณ์
 เครื่องกล
วันนี้ 1,445
เมื่อวาน 984
สัปดาห์นี้ 12,474
สัปดาห์ก่อน 29,853
เดือนนี้ 59,631
เดือนก่อน 65,987
ทั้งหมด 4,874,883
  Your IP :18.222.182.249

2.3 สัญกรณ์ทางวิทยาศาสตร์

 

      ในอิเล็กทรอนิกส์ เป็นเรื่องธรรมดาที่จะพบค่าต่าง ๆ ในทางไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ ที่มีขนาดเล็กมาก ไปจนถึงที่มีขนาดที่ใหญ่มาก สัญกรณ์ หรือตัวเลขทางวิทยาศาสตร์ (Scientific notation) คือ การให้ความหมายที่เป็นตัวเลขในการที่จะนำไปใช้

 

 

รูปตัวเลขรูปแบบสัญกรณ์ทางวิทยาศาสตร์

แนะนำเพื่อให้อ่านได้ต่อเนื่องให้ คลิกขวาเลือก Open link in new window

 

      เป็นตัวเลขที่เป็นตัวคูณกับสิบยกกำลังด้วยตัวเลขต่าง ๆ  ซึ่งจะแสดงให้เห็นว่า ค่าที่ได้จะมีขนาดเล็ก หรือมีขนาดใหญ่ ยกตัวอย่างเช่น เลข 300 ถ้านำมากล่าวในรูปแบบ ถ้านำมากล่าวในรูปแบบสัญกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ก็จะเขียนได้ดังนี้  3 ´ 102

 

      รูปแบบสัญกรณ์ที่ยกกำลัง จะแสดงถึงจำนวนบ่งชี้ของตัวเลขทศนิยมไม่ว่าจะไปทางด้านซ้าย หรือทางด้านขวาของจุดทศนิยม หากมีกำลังเป็นบวก จุดทศนิยมจะถูกย้ายไปทางขวา ยกตัวอย่างเช่น

 

8 x 103 = 8.0 x 103 = 8,000

 

      หากการชี้กำลังเป็นลบ จุดทศนิยมจะถูกย้ายไปทางซ้าย ยกตัวอย่างเช่น

 

6 x 10-6 = 6.0 x 10-6 = 0.000006

 

ค่าตัวเลข

เลขชี้กำลัง

สัญลักษณ์

คำนำหน้า

1 000 000 000 000 000 000 000 000

1024

Y

ย็อตต้า (Yotta-)

1 000 000 000 000 000 000 000

1021

Z

เซตต้า (Zetta-)

1 000 000 000 000 000 000

1018

E

เอ็กซา (Exa-)

1 000 000 000 000 000

1015

P

เพตา (Peta-)

1 000 000 000 000

1012

T

เทรา (Tera-)

1 000 000 000

109

G

จิกะ (Giga-)

1 000 000

106

M

เมกกะ (Mega-)

1 000

103

k

กิโล (Kilo-)

100

102

h

เฮกโต (Hecto-)

10

101

da

เดกา (Deca-)

0.1

10-1

d

เดซิ (Deci-)

0.01

10-2

c

เซนติ (Centi-)

0.001

10-3

m

มิลลิ (Milli-)

0.000 001

10-6

m

ไมโคร (Micro-)

0.000 000 001

10-9

n

นาโน (Nano-)

0.000 000 000 001

10-12

p

พิโค (Pico-)

0.000 000 000 000 001

10-15

f

เฟมโต (Femto-)

0.000 000 000 000 000 001

10-18

a

แอตโต (Atto-)

0.000 000 000 000 000 000 001

10-21

z

เซพโต (zepto-)

0.000 000 000 000 000 000 000 001

10-24

y

ยอคโต (zepto-)

ตารางที่ 2.1 ตารางเลขสัญกรณ์ทางวิทยาศาสตร์

 

จากตารางที่ 2.1 เป็นการใช้เลขชี้กำลังจากสิบ ทั้งในทางด้านบวก และลบ และแทนด้วยตัวเลขชี้กำลัง และใช้สัญลักษณ์ข้างหน้าเพื่อช่วยบ่งบอกถึงขนาดของมันได้

 

      ยกตัวอย่างเช่น แอมแปร์ เป็นหากมีค่ามากก็จะมีตัวเลขที่ใหญ่ ซึ่งไม่บ่อยนักที่จะพบในวงจรไฟฟ้ากำลังต่ำ ในวงจรกำลังต่ำ ที่เห็นบ่อยก็คือหน่วย มิลลิแอมแปร์ (Milliampere: mA) และไมโครแอมแปร์ (Microampere: mA)

 

      มิลลิแอมแปร์เท่ากับ 1 ส่วนพัน (1/1,000) ของหนึ่งแอมแปร์ หรือ 0.001 A ในทางกลับกัน 1,000 มิลิแอมแปร์จะเท่ากับ 1 แอมแปร์

 

      หนึ่งไมโครแอมแปร์จะเท่ากับ หนึ่งส่วนล้าน (1/1,000,000) ของแอมแปร์ หรือ 0.000001 A และในทางกลับกัน 1,000,000 ไมโครแอมแปร์ จะเท่ากับ 1 แอมแปร์

 

ตัวอย่างที่ 2.3 ถ้าหากเราวัดกระแสไฟฟ้าได้ 2 แอมแปร์ มันจะมีค่าเท่ากับกี่มิลลิแอมแปร์ ?

 

วิธีทำ โจทย์กำหนดให้ I =2 A  และให้ x = ? mA

 

1000 mA/1A = x  mA/2A

 

โดย 1,000 mA = 1 A

 

1,000/1 = x /2

 

(x)(1) = (1,000)(2)

 

                         x = 2,000 mA           ตอบ

 

 

ตัวอย่างที่ 2.4 ถ้าหากเราวัดกระแสไฟฟ้าได้ 50 ไมโครแอมแปร์ มันจะมีค่าเท่ากับกี่แอมแปร์ ?

 

วิธีทำ โจทย์กำหนดให้ I =50 mและให้ x = ? A

 

1,000,000 mA /1A = 50 mA / x A

 

โดย 1,000,000 mA = 1 A

 

1,000,000 /1 =50 / x

 

 (1)(50) = (1,000,000) (x)

 

                         x = 0.00005 A          ตอบ

 

 

 

บทสรุป

  • กฎของประจุไฟฟ้าสถิต ขั้วเหมือนกันจะผลักกัน และขั้วต่างกันจะดูดกัน
  • ประจุไฟฟ้า (Q) ถูกวัดออกมา ในหน่วยคูลอมบ์ (C)
  • หนึ่งคูลอมบ์ มีค่าเท่ากับจำนวนอิเล็กตรอน 6.24 x 1018 อิเล็กตรอน
  • กระแสไฟฟ้าเคลื่อนที่ช้า ๆ จากพื้นที่ประจุลบไปยังพื้นที่ที่เป็นประจุบวก
  • การไหลของกระแส ถูกวัดเป็นหน่วน แอมแปร์
  • หนึ่งแอมแปร์ (A) คือ จำนวนของกระแสไฟฟ้าที่ไหลในตัวนำ เมื่อประจุหนึ่งคูลอมบ์เคลื่อนที่ผ่านจุดจุดหนึ่งในหนึ่งวินาที
  • ความสัมพันธ์ระหว่าง กระแสไฟฟ้า, ประจุไฟฟ้า และเวลา ก็คือ

I = Q/t

  •  อิเล็กตรอน (ประจุลบ) แทนประจุพาหะในวงจรไฟฟ้า
  • การเคลื่อนที่ของหลุม (ประจุบวก) เกิดขึ้นในทิศทางตรงกันข้ามกับการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอน
  • การไหลของกระแสไฟฟ้าในวงจรคือ จากลบ ไปบวก
  • การเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนช้ามาก ๆ ผ่านตัวนำ แต่อิเล็กตรอนแต่ละตัวเคลื่อนที่ที่ความเร็วแสง
  • สัญลักษณ์ในทางวิทยาศาสตร์ที่แสดงตัวเลขจำนวนมาก ๆ หรือเล็กมาก ๆ จะใช้ตัวเลขสิบ ยกกำลังตัวเลขในด้านบวก (ตัวเลขมาก) และลบ (ตัวเลขน้อย)
  • หากการยกกำลังเป็นตัวเลขบวก เลขจุดทศนิยมจะเคลื่อนไปทางขวา
  • หากการยกกำลังเป็นตัวเลขลบ เลขจุดทศนิยมจะเคลื่อนไปทางซ้าย
  • คำนำหน้าที่ชื่อ มิลลิ- หมายถึง 1/1,000
  • ส่วนคำนำหน้าที่ชื่อ ไมโคร- หมายถึง 1/1,000,000

 

 

จบบทที่ 2

ครั้งหน้าพบกับ บทที่ 3 ในเรื่อง แรงดันไฟฟ้า โปรดติดตาม

 

 

 

 

 

ข้อคิดดี ๆ ที่นำมาฝาก

 

ร่วมน้อมรำลึกถึง คำพ่อสอน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต

 

การมีวินัย มีความสามัคคี และรู้จักหน้าที่

ถือกันว่าเป็นคุณสมบัติสำคัญประจำตัวของคนทุกคน 

แต่ในการสร้างเสริมคุณสมบัติ ๓ ข้อนี้ จะต้องไม่ลืมว่า

วินัย สามัคคี และหน้าที่นั้น

เป็นได้ทั้งในทางบวก และทางลบ 

ซึ่งย่อมให้คุณ หรือให้โทษได้มากเท่า ๆ กัน ทั้ง ๒ ทาง เพราะฉะนั้น เมื่อจะอบรม

จำเป็นต้องพิจารณาให้ถ่องแท้แน่ชัดก่อนว่า

เป็นวินัยสามัคคี และหน้าที่ดี

คือ ปราศจากโทษ เป็นประโยชน์ เป็นธรรม

 

พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

พระราชทานแก่ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ

๑๒ กรกฎาคม ๒๕๒๖ 

 

 

ขอน้อมส่งพระองค์สู่สวรรคาลัย

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ

 

<หน้าที่แล้ว                                 สารบัญ                    หน้าต่อไป>

 

 

Share on Facebook
 
Google

WWW
http://www.thummech.com/
ฟังเพลงออนไลน์ คลิกเลย
 
Copyright © 2013-2015 Thummech All Rights Reserved. 
Powered by  ThaiWebPlus 
คนธรรมดามีความรู้คือคนฉลาด คนฉลาดมีความเข้าใจคือคนธรรมดา