2.1.1 ด้านบวกของความเครียด
บางครั้งคนเราจำเป็นต้องมีความเครียดไว้บ้าง เพราะว่ามันจะมีพลังงานด้านบวกอยู่ ความเครียดทำให้เรามีความตื่นเต้น ท้าทาย มันช่วยให้เรารู้จักการเรียนรู้เกี่ยวกับคุณค่า และจุดแข็งของเรา ความเครียดจะทำให้เราแสดงความสามารถออกมา เพื่อรับมือกับความกดดันที่เกิดขึ้นว่าจะทำได้แค่ไหน
อีกอย่างมันจะทดสอบเราว่า เราสามารถปรับตัว และใช้ชีวิตแบบยืดหยุ่นได้ไหม
รูปความเครียด
แนะนำเพื่อให้อ่านได้ต่อเนื่องให้ คลิกขวาเลือก Open link in new window
มันจะกระตุ้นให้เราทำในสิ่งที่ดีที่สุดตามแต่เหตุการณ์ที่จะเป็นไป ในบางครั้ง เราอาจไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น นั่นคือทำให้เรามีความประมาทเกิดขึ้น ซึ่งจะไม่เป็นผลดีแต่ตัวเองนักถ้าเกิดความผิดพลาดไป นอกจากนี้ ความเครียดมันยังสามารถบ่งบอกได้ดีเกี่ยวกับความสำคัญของเหตุการณ์ที่มีความสำคัญกับเราที่เกิดเกิดขึ้นมา
เราจำเป็นจะต้องมีความเครียดบางส่วนในชีวิตของเรา แต่ถ้ามากเกินไปก็จะไม่ดี เป้าหมายคือมีความเครียด แต่ต้องไม่มากเกินไป ถ้ามันมีความเครียดมากเกินไปมันจะทำให้เกิดการสูญเสียแก่คน และสิ่งของรอบตัว ความเครียดที่มากจะนำไปสู่ความเจ็บปวด ยุ่งยาก, ความกังวลใจ, ความเศร้าเสียใจ, ความเศร้าซึม, ความลำบาก ฯลฯ
ความกังวลใจเนื่องมาจากความไม่สบายทางจิตใจ ความอึดอัด นั่นจะทำให้เราพยายามที่จะหลีกเลี่ยง หลบหนีไปหาสิ่งที่ดีกว่า รายการที่จะกล่าวด้านล่างเป็นเพียงส่วนหนึ่ง ที่เป็นลางบอกเหตุว่า มีความกังวลใจ หรือเกิดความเครียดขึ้น ถ้าหากเกิดความเครียดขึ้นสมควรที่จะหาทางระบายเรื่องเครียด ๆ นั่น เพื่อที่ลดความเครียดที่มีมากเกินไป สาเหตุที่ทำให้เครียด กังวลใจมีดังนี้
· ความยากในการตัดสินใจ
· การโกรธจนประทุออกมา
· ขี้หลงขี้ลืม
· พลังงานในร่างกายที่มีระดับต่ำ
· เวลาที่วิตกกังวล
· เริ่มก้าวไปสู่ความผิดพลาด
· มีความคิดที่จะตาย หรือฆ่าตัวตาย
· อุปสรรคที่ส่งผลไปถึงคนอื่น
· ถอนตัวออกจากบางสิ่งบางอย่าง
· หลบหนีความรับผิดชอบ
· ความไม่ระมัดระวัง
ความเครียดสามารถทำสิ่งที่สร้างสรรค์ หรือทำลายก็ได้ มันสามารถปลุกเร้า หรือบั่นทอนให้หมดกำลังใจก็ได้, มันสามารถเปลี่ยนแปลง หรือหยุดสิ่งที่เกิดขึ้นก็ได้ และมันสามารถทำให้ชีวิตดูมีความหมาย หรือดูเหมือนไม่มีความหมายก็ได้
ความเครียดสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้คุณในการที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในการดำเนินงาน และดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในสถานการณ์ที่มีความจำเป็นที่จะต้องรอด
นอกจากนี้มันสามารถทำให้คุณตื่นตระหนก และลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้ฝึกอบรมมา กุญแจสำคัญในการอยู่รอดของคุณ คือความสามารถที่จัดการความเครียดที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง ได้อย่างชาญฉลาด ผู้ที่ทำให้ตัวเองอยู่รอดเป็น จะใช้ชีวิตร่วมกับความเครียด และปล่อยความเครียดให้แปรเปลี่ยนไปตามงานที่กำลังทำอยู่ได้ (ใช้ประโยชน์จากความเครียดที่เกิดขึ้น)
2.1.2 ความเครียดที่เกิดจากสถานการณ์เอาตัวรอด
เหตุการณ์ใด ๆ ที่จะนำไปสู่ความเครียด เมื่อผ่านมันมาได้จะทำให้เกิดมีประสบการณ์กับตัวเอง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมักไม่ค่อยได้เกิดบ่อย และมีบ่อยครั้งเหตุการณ์เกิดขึ้น มักจะมาพร้อมกับความเครียด
แต่ก็มีบางครั้งเช่นกัน มันจะเป็นบ่อเกิดของความเครียด สิ่งที่ก่อให้เกิดความเครียดขึ้น ก็มาจากสาเหตุคือ ขณะเครียดเกิดขึ้น ตัวเราจะรับรู้ต่อความเครียดที่เกิดขึ้นนั้น เมื่อร่างกายตระหนักถึงการปรากฏขึ้นของแรงกดดันทางความเครียด มันจะตอบโต้ป้องกันตัวเองโดยอัตโนมัติ ออกมาให้เห็นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ในการสนองตอบต่อสิ่งที่ทำให้ก่อเกิดความเครียด ร่างกายจะมีความพร้อม และสมองจะคิดว่า สู้ หรือหนี (Fight or flee) จากนั้นก็จะเกิดการกระตุ้นขึ้นแก่ร่างกาย เกิดการสนองตอบแก่ร่างกาย จะทำให้ร่างกายตื่นตัว เกิดอาการหลายอย่างขึ้น
ร่างกายจะปลดปล่อยพลังงานที่ถูกเก็บ (เก็บในรูปน้ำตาล และไขมัน) ออกมา เพื่อจ่ายพลังงานนี้แก่ร่างกายอย่างรวดเร็ว จะทำให้อัตราการหายใจเพิ่มขึ้น แน่นอนก็จะทำให้เลือดได้รับออกซิเจนมากขึ้นไปด้วย,
รูปออกซิเจนเพิ่มขึ้นในร่างกายทำให้สุขภาพ และการใช้พลังงานของร่างกายดีขึ้น
ความตึงเครียดของกล้ามเนื้อก็จะเพิ่มขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการปฏิบัติการตามจิตสำนึก, กลไกการแข็งตัวของเลือดถูกกระตุ้นเพื่อลดการมีเลือดออกเมื่อเกิดบาดแผล,
รูปกลไกการแข็งตัวของเลือดเมื่อเกิดบาดแผล
ประสาทสัมผัสจะมีมากขึ้นอย่างเฉียบพลัน เช่น มีความไวต่อการได้ยิน, ดวงตาจะเบิกโพลง, การได้กลิ่นจะไวขึ้น ซึ่งจะทำให้คุณมีความตระหนักต่อสิ่งรอบข้างมากขึ้น อัตราการเต้นของหัวใจ กับความดันเลือดจะสูงขึ้น เป็นผลให้เลือดถูกส่งไปยังกล้ามเนื้อมากขึ้น
เหล่านี้จะเป็นสัญชาติญาณของมนุษย์ และสัตว์ในการที่จะป้องกันตัวเอง และรับมือกับอันตรายที่จะเกิดขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม สภาวะแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นตลอด มันเป็นเพียงการเกิดขึ้นแค่ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้นเอง
ข้อคิดดี ๆ ที่นำมาฝาก
“ความอดทน แม้จะเป็นสิ่งที่ขมขื่น แต่ผลของมันมักจะหวานชื่นเสมอ”