บทความ
 เคมี (Chemistry)
 สู่อิสรภาพทางการเงิน (To Financial Freedom)
 การคำนวณ และออกแบบ (Calculation and design)
 เทคโนโลยีการเกษตร (Agricultural Technology)
 เครื่องมือกล (Machine tools)
 Laws of Nature
 อวกาศ
 พลังงาน
 อิเล็กทรอนิกส์
 ทฤษฏีสัมพัทธภาพ
 ไครโอเจนิกส์
 เฮลิคอปเตอร์
 เกียร์อัตโนมัติ
 โทรศัพท์มือถือ
 ยาง
 รถไฟความเร็วสูง
 คลัตช์ และกระปุกเกียร์ธรรมดา
 เจ็ทแพ็ค
 แผ่นดินไหว
 คู่มือ ต้องรอด
 โรงไฟฟ้าพลังน้ำ
 ดาวเทียม
 เชื่อมโลหะใต้น้ำ
 กังหันลมผลิตไฟฟ้า
 เครื่องยนต์ดีเซล
 เครื่องยนต์เบนซิน
 คัมภีร์สงครามซุนวู ฉบับเข้าใจง่าย
 โลหะ
 ฟิสิกส์
 ปัญหาพระยามิลินท์
 ยานยนต์สมัยใหม่
 แมคาทรอนิกส์
 เครื่องกล 6 แกน
 เครื่องยนต์เจ็ท
 หุ่นยนต์
 สินค้า ผลงาน
 เขียนแบบ
 ออกแบบ คำนวณ
 วางโครงการ
 งานโลหะ
 อุปกรณ์
 เครื่องกล
วันนี้ 1,199
เมื่อวาน 2,664
สัปดาห์นี้ 5,561
สัปดาห์ก่อน 18,479
เดือนนี้ 5,561
เดือนก่อน 62,658
ทั้งหมด 4,412,716
  Your IP :18.221.187.121

26 ขอบเขตความยืดหยุ่น, การคืบคลาน และอัตราส่วนพอยส์สัน

 

4.2.6 ช่วงยืดหยุ่น และพลาสติก

 

      ในช่วงขอบเขตของการแปรผันตรง วัสดุถูกแรงกระทำจะเกิดความเค้นขึ้นเพียงเล็กน้อย และเมื่อปลดแรงออกก่อนวัสดุจะพ้นช่วงขอบเขตของการแปรผันตรงวัสดุยังสามารถคืนกลับสู่สภาพเดิมได้ ช่วงนี้จะเป็นขอบเขตที่เรียกว่า ขอบเขตความยืดหยุ่น (Elastic limit)ดูได้ที่รูป แต่ถ้าวัสดุถูกแรงกระทำต่อไปจนพ้นจุดนี้แล้ววัสดุจะยืดต่อไป และจะไม่สามารถคืนสู่รูปร่างเดิม ก็คือจะเสียรูปไปเลย

 

รูปวัสดุถูกแรงกระทำเมื่อเทียบกับกราฟความเค้น-ความเครียด

แนะนำเพื่อให้อ่านได้ต่อเนื่องให้ คลิกขวาเลือก Open link in new window

 

      หลังจากที่วัสดุถูกแรงกระทำ จนพ้นขอบเขตความยืดหยุ่น อัตราส่วนของความเค้น ต่อความเครียดจะไม่เป็นเส้นตรง และวัสดุจะไม่คืนกลับสภาพเดิมแม้ปลดแรงออกแล้วก็ตาม ความเครียด และการเสียรูปก็จะลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ช่วงนี้เราจะเรียกว่า ช่วงพลาสติก (Plastics)ดูรูป (ช่วงนี้จะนับจากจุดครากตัวไปจนถึงจุดวัสดุแตกหัก)

 

รูปกราฟความเค้นความเครียดของวัสดุแสดงพฤติกรรมของวัสดุเป็นช่วง ๆ (เรียงลำดับ A ช่วงยืดหยุ่น, B จุดครากตัว, C ช่วงพลาสติก และ D จุดแตกหัก)

 

      รูปร่างของไดอะแกรมความเค้น กับความเครียด ภาพกว้างแบ่งออกเป็นสองวัสดุก็คือ วัสดุเปราะ (Brittle material) และวัสดุเหนียวอ่อน (Ductile material)

 

รูปลักษณะของกราฟความเค้น-ความเครียดของวัสดุเปราะ และวัสดุเหนียว

 

รูปกราฟความเค้น-ความเครียดของวัสดุประเภทต่าง ๆ

 

วัสดุเปราะ (Brittle material) เป็นวัสดุที่มีความแข็งแกร่งสืบเนื่องมาจากมีความเครียดเกิดขึ้นน้อย แต่มีความเค้นสูงการแตกหักของวัสดุจะเกิดขึ้นทันทีโดยไม่มีช่วงพลาสติกเกิดขึ้น ตัวอย่างเช่น แก้ว, เหล็กหล่อ

 

วัสดุแข็งแกร่ง แต่ไม่มีความเหนียว ถ้าเป็นลวดวัสดุจะยืดออกน้อยมาก และจะพังทันทีเมื่อแรงกระทำต่อลวดมีมากพอ

 

วัสดุเหนียวอ่อน (Ductile material) หลังขอบเขตความยืดหยุ่น จะเกิดคอคอดขึ้น และจะเสียรูปอย่างถาวรเมื่อเข้าสู่ช่วงพลาสติก ตัวอย่างเช่น เหล็กเหนียว

 

วัดสุพลาสติก (Plastic material) มีขอบเขตความยืดหยุ่นน้อยมาก

 

 

ส่วนวัสดุชนิดต่าง ๆ มีรูปร่างแตกต่างกันไปในแต่ละชนิดวัสดุ ดูรูป

 

 

รูปกราฟความเค้น-ความเครียดของวัสดุต่าง ๆ

 

อลูมิเนียม และโลหะที่ไม่ใช่เหล็ก (ในกรณีโลหะบริสุทธิ์) จะไม่ค่อยมีช่วงของขอบเขตแปรผันตรง มากเท่ากับโลหะที่เป็นเหล็กกล้า หรืออาจมี แต่อาจมีเป็นช่วงสั้น ๆ และก็ไปอยู่ในช่วงพลาสติกเลย

 

      ส่วนเหล็กหล่อจะมีช่วงขอบเขตแปรผันตรงที่ไม่คงที่ และไม่สามารถหาได้จากการคำนวณที่แน่นอนได้ จึงต้องทำการทดลอง หรือถ้าจะคำนวณก็เป็นเพียงการประมาณค่าเพียงอย่างเดียว ทั้งนี้เป็นเพราะว่าเหล็กหล่อมันมีความเปราะอยู่นั่นเอง

 

 

4.2.7 การคืบคลาน

 

      เมื่อวัสดุถูกแรงกระทำในระดับความเค้น-ความเครียดมีค่าหนึ่งโดยเฉพาะ และเมื่อเวลาผ่านไปความเค้น-ความเครียดนั้นยังคงอยู่ตลอดเวลา วัสดุอาจเกิดการเสียรูปได้ถึงแม้ว่าค่าของแรงที่กระทำจะไม่พ้นช่วงขอบเขตการแปรผันตรงก็ตาม (ใช้แรงกระทำน้อย แต่วัสดุยังสามารถเสียรูปได้) ปรากฏการณ์ที่มีอยู่ นี้เรียกว่า การคืบคลาน (Creep)

 

รูปกราฟความเครียด กับระยะเวลาของวัสดุ

 

      การคืบคลาน เป็นการไหลของวัสดุในช่วงพลาสติก และวัสดุสามารถยืดได้อย่างต่อเนื่อง ถึงอย่างไรก็ตามความเค้นก็ไม่เพิ่มขึ้นจะเพิ่มขึ้นแต่ความเครียด

 

      การคืบคลานเป็นกระบวนการไหลแบบพลาสติกที่เกิดขึ้นอย่างช้า ๆ และยิ่งไปกว่านั้นถ้าวัสดุนั้นใช้งานในที่ที่มีอุณหภูมิสูงด้วยแล้วละก็ เมื่อเกิดการคืบคลานขึ้น ชิ้นงานนั้นก็จะยิ่งมีอันตรายมาก สาเหตุอันเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของขนาดซึ่งอาจใช้เวลาในการเกิดขึ้นนอย่างรวดเร็ว

 

      แต่ถ้า วัสดุใช้งานในที่อุณหภูมิต่ำกว่า การเกิดการคืบคลานอาจก็ยังคงเกิดขึ้นแต่อาจเกิดขึ้นเป็นเดือน เป็นปี หรือหลาย ๆ ปี ถึงจะเห็นผลของมัน ดังนั้นการคืบคลานที่เกิดในส่วนอุณหภูมิต่ำไม่ค่อยน่าห่วงเท่าไหร่ แต่จะต้องมีความกังวลเป็นอย่างมากเมื่อชิ้นงานนั้นนำไปใช้งานที่อุณหภูมิสูง

 

      ช่วงวัสดุแบบนี้จึงเป็นปัญหาที่ยังแก้ไม่ตกในการออกแบบชิ้นงาน การออกแบบสร้างจึงต้องอาศัยประสบการณ์ และค่าความเผื่อของความแข็งแกร่งของวัสดุให้มีค่าสูงพอสมควรเมื่อนำมาใช้งานในบริเวณที่มีอุณหภูมิสูง

 

รูปของใบพัดของเครื่องยนต์เทอร์ไบน์ที่พังเพราะเกิดจากการคืบคลาน

 

 

 

4.2.8 อัตราส่วนพอยส์สัน

 

       ขณะที่วัสดุมีความเครียด และยืดออกในทิศทางหนึ่ง ขนาดของวัสดุจะลดลงในทิศทางอื่นด้วย ดูรูป

 

รูปวัตถุที่ถูกยืดออกในทิศทางเดียว ทิศทางที่ตั้งฉากกับแรงกระทำจะเกิดการหดตัวด้วยเราเรียกว่า อัตราส่วนพอยส์สัน

 

รูปวัสดุถูกแรงกระทำด้านหนึ่งอีกด้านหนึ่งขยายตัวออกที่เรียกว่าอัตราส่วนของพอยส์สัน

 

การหดตัวโดยเกิดความเครียดในทิศทางที่สองที่ตั้งฉากกับแนวแรง จะมีค่าน้อยกว่า ความเครียดที่เกิดขึ้นตามแนวแรง ความสัมพันธ์ระหว่างค่าความเครียดเหล่านี้ เราเรียกมันว่า อัตราส่วนพอยส์สัน หรือปัวซอง (Poisson’s Ratio) (แล้วแต่จะเรียก)

 

      อัตราส่วนพอยส์สันคือ อัตราส่วนความเครียดตามขวาง หรือด้านข้าง ต่อความเครียดตามแนวแรง อัตราส่วนพอยส์สันที่ได้จะเป็นค่าติดลบ ทั้งนี้เนื่องจากว่า ความเครียดด้านข้าง และความเครียดตามแนวแกนมีผลตรงกันข้ามกัน

 

อัตราส่วนพอยส์สัน (m) = -(ความเครียดตามขวาง(ey)/ความเครียดตามแนวแกน (ex))

 

เราลองมาดูตัวอย่างการคำนวณเกี่ยวกับการใช้อัตราส่วนพอยส์สันในการเปลี่ยนแปลงขนาดของพื้นที่หน้าตัด ดูได้จากตัวอย่างที่ 4.10

 

ตัวอย่างที่ 4.10 (หน่วยอังกฤษ) ชิ้นส่วนเครื่องกลบาง มีพื้นที่หน้าตัดสี่เหลี่ยมมุมฉาก 0.55 นิ้ว ´ 0.33 นิ้ว และมีความยาว 77 นิ้ววัสดุมีอัตราส่วนพอยส์สัน 0.3 ถ้ายืดออกได้ยาว 1.5 นิ้ว จงคำนวณหาการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่หน้าตัดได้จากอัตราส่วนพอยส์สัน

 

รูปชิ้นส่วนเครื่องกลถูกยืดตัวออกเพื่อหาอัตราส่วนพอยส์สัน

 

วิธีทำ โจทย์กำหนดให้ ชิ้นส่วนเครื่องกลมีพื้นที่หน้าตัด = 0.55 นิ้ว ´ 0.33 นิ้ว; ยาว = 77 นิ้ว; m = -0.3 (ค่าติดลบ); ยืดตามแนวแกน = 1.5 นิ้ว; หา ขนาดเปลี่ยนแปลงตามขวาง (y, z) = ? นิ้ว

 

ขั้นตอนที่ 1 คำนวณหาความเครียดตามแนวแกน (x)

 

ความเครียดตามแนวแกน (x) = ความยาวเปลี่ยนแปลงตามแนวแกน/ความยาวเดิม

 

eX = dx/Lx = 1.5”/77”= 0.0195

 

ขั้นตอนที่ 2 เมื่อเราทราบความเครียดตามแนวแกนแล้ว เราก็สามารถนำอัตราส่วนพอยส์สันที่โจทย์กำหนด นำมาคำนวณหาความเครียดด้านข้างได้

 

ความเครียดที่เกิดด้านข้าง (แกน y และ z) = ความเครียดตามแนวแกน ´ (- อัตราส่วนพอยส์สัน)

 

= 0.0195 ´ (-0.3)

 

= - 0.00585

     

ขั้นตอนที่ 3 เมื่อได้ค่าความเครียดที่เกิดขึ้นทางด้านข้างแล้ว ก็นำมาใช้คำนวณการเสียรูปในพื้นที่หน้าตัดสองมิติได้

 

ความยาวเปลี่ยนแปลงด้านข้าง (y) = ความเครียดด้านข้าง ´ ความยาวเดิม

 

= -0.00585 ´ 0.55²

 

= - 0.0032²

 

ความยาวเปลี่ยนแปลงด้านข้าง (z) = -0.00585 ´ 0.33²

 

= - 0.0019² ตอบ

 

 

ข้อคิดดี ๆ ที่นำมาฝาก

 

พึงชนะคนตระหนี่ด้วยการให้

 

พุทธพจน์

Share on Facebook
 
Google

WWW
http://www.thummech.com/
ฟังเพลงออนไลน์ คลิกเลย
 
Copyright © 2013-2015 Thummech All Rights Reserved. 
Powered by  ThaiWebPlus 
คนธรรมดามีความรู้คือคนฉลาด คนฉลาดมีความเข้าใจคือคนธรรมดา