บทที่ 3 เวกเตอร์
ในการศึกษาฟิสิกส์ มีอยู่บ่อยครั้งเราจำเป็นที่จะต้องรู้งานที่เกิดขึ้น อยู่ในรูปแบบปริมาณทางฟิสิกส์ นั่นคือ งานที่ต้องการรู้จะมีคุณสมบัติทั้งขนาด และทิศทาง ซึ่งเป็นปริมาณที่เกิดตามธรรมชาติ นั่นก็คือ ปริมาณของเวกเตอร์ (Vector quantities)
รูปปริมาณเวกเตอร์ของอนุภาค มีทั้งขนาด และทิศทาง
แนะนำเพื่อให้อ่านได้ต่อเนื่องให้ คลิกขวาเลือก Open link in new window
รูปการเตะลูกบอลของนักฟุตบอล เป็นปริมาณทางเวกเตอร์เพราะมันจะมีขนาดของแรง และทิศทางที่จะไป
บทนี้ เราจะกล่าวถึงความสัมพันธ์กัน พร้อมกับกล่าวถึงคุณสมบัติทั่วไปในรูปแบบปริมาณเวกเตอร์ เราจะอธิบายถึงการบวก และลบปริมาณเวกเตอร์ ที่สามารถพบเห็น และใช้งานที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน ที่เป็นสถานการณ์ทางฟิสิกส์ (ทุกอย่างจะต้องมีฟิสิกส์ หรือทางกายภาพเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งนั้น)
3.1 ระบบพิกัด
มีมุมมองมากมายที่มีความเกี่ยวพันกันในทางฟิสิกส์ ที่สามารถอธิบายลักษณะของตำแหน่งในพื้นที่ว่าง สามารถย้อนกลับไปดูได้ในบทที่ 2 แสดงให้ดูเป็นตัวอย่างเบื้องต้น เราจะเห็นการอธิบาย ในรูปแบบทางคณิตศาสตร์ของการเคลื่อนที่ของวัตถุ ที่จำเป็นเพื่อใช้ในการพิจารณาตำแหน่งของวัตถุ ณ ช่วงเวลาใด ๆ ในระนาบ 2 มิติ
การพิจารณาเหล่านี้ จะถูกอธิบายในรูปแบบของตำแหน่ง ที่ถูกกำหนดเป็นพิกัด ที่เรียกว่า ระบบพิกัดคาร์ทีเซียน (Cartesian coordinates) จะมีแกนเส้นตรงสมมติสองแกนตัดกัน แล้วตั้งฉากซึ่งกันและกัน และจุดที่ตัดก็คือ จุดกำเนิด (Origin) ดูที่รูป
รูปแบบพิกัดคาทีเซียน
รูปพิกัดคาทีเซียน
พิกัดคาร์ทีเซียนเราสามารถเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า พิกัดรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก (Rectangular coordinates)
แต่บางครั้งสามารถทำให้ดูสะดวกมากขึ้น เมื่อแทนจุดในระนาบพิกัดอีกรูปแบบหนึ่ง นั่นก็คือการใช้ ระนาบพิกัดเชิงขั้ว (Plans polar coordinates: r, q) มาอธิบายแทน ดังแสดงในรูป
รูปแบบพิกัดเชิงขั้ว
รูปพิกัดเชิงขั้วในรูปอย่างง่าย
ในระบบระนาบพิกัดเชิงขั้วนี้ r คือระยะทางจากจุดกำเนิด ไปจนถึงจุดที่มีพิกัดคาร์ทีเชียน (x, y) อยู่ และมุม q เป็นมุมที่ถูกวัดระหว่างแกนหลัก กับเส้นที่ลากจากจุดกำเนิดไปจนถึงจุดปลาย ในแกนหลักนั้น ปกติที่มีการใช้บ่อย ๆ ก็คือแกนบวกเอ็กซ์ และมุมที่วัดนั้นก็ปกติจะเริ่มวัดจากแกนบวกเอ็กซ์ขึ้นมาเหมือนกัน ดูรูปด้านล่าง
รูประนาบพิกัดเชิงขั้ว
จากสามเหลี่ยมมุมฉากในรูปด้านบน เราสามารถหาค่ามุม q ตามทฤษฏีตรีโกณมิติ ได้ดังนี้
sin q = y/r
cos q = x/r
ดังนั้นแล้ว เมื่อมีการเริ่มต้นตำแหน่งด้วยระนาบพิกัดเชิงขั้ว ที่จุดใด ๆ ก็ตาม เราสามารถคำนวณหาตำแหน่งนั้น ๆ ให้เป็นพิกัดคาร์ทีเชียนได้ โดยการใช้สมการดังข้างล่างนี้
x = r cos q (3.1)
y = r sin q (3.2)
นอกจากนี้ หากเราทราบพิกัดคาร์ทีเชียนแล้ว เราก็ยังที่จะสามารถใช้ความรู้ทางตรีโกณมิติเพื่อที่จะหามุมได้จากสมการด้านล่างนี้
tan q = y/x (3.3)
r = Ö(x2 + y2) (3.4)
ซึ่งสมการที่ 3.4 นั่นคือ ทฤษฏีพิธากอรัส (Pythagorean theorem) อันคุ้นเคย
รูปทฤษฏีพิธากอรัส
ทั้งสี่สมการข้างต้นเหล่านี้ แสดงให้เห็นถึงเรื่องที่สัมพันธ์ และเกี่ยวข้องกันของระบบพิกัดคาร์ทีเชียน (x, y) เชื่อมโยงไปถึงพิกัดเชิงขั้ว (r, q) ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการคิดคำนวณกลับไปกลับมาได้
เมื่อ q เป็นมุมจากการวัดทวนเข็มนาฬิกาจากตำแหน่งแกน x (เครื่องคิดเลขที่เป็นวิทยาศาสตร์จะทำการแปลงไปมาระหว่าง พิกัดคาทีเซียน และเชิงขั้ว) แต่ถ้าเปลี่ยนแปลงเพื่ออ้างอิงกับแกนอื่นก็สามารถอ้างอิงได้ โดยการหาค่ามุม q ในพิกัดเชิงขั้วของแกนนั้น ๆ ได้
ตัวอย่างที่ 3.1 พิกัดเชิงขั้ว
พิกัดคาทีเชียนของจุดในระนาบ xy ก็คือ (x,y) = (-3.5, -2.5) m ดังแสดงในรูปด้านล่าง จงแสดงให้เห็น อยู่ในรูปของพิกัดเชิงขั้ว
รูปตัวอย่าง 3.1
วิธีทำ
เราสามารถทำการพล็อตกราฟ กำหนดรูปพิกัดคาทีเชียนได้เหมือนดังรูปด้านบน เพื่อใช้ในการแก้ปัญหาข้อนี้ เราจะทำการแปลงพิกัดคาทีเชียน ไปเป็นพิกัดเชิงขั้วโดยการทดแทนค่าจากพิกัดหนึ่ง ไปอีกพิกัดหนึ่ง
ซึ่งปัญหาที่พบทั่วไปจะไม่ได้มีการวิเคราะห์คำนวณอย่างละเอียด มักจะมีค่าตัวเลขมาให้เห็นเลย และก็แทนที่ค่าตัวเลขลงไปในสมการ แต่ในบางปัญหามีความจำเป็นที่จะต้องพิสูจน์สมการ และหาเหตุผลในคำตอบที่ได้
นอกเสียจาก การแทนที่ของตัวเลขลงไปในสมการที่กำหนดให้ ในทำนองเดียวกัน เมื่อคำนวณเสร็จก็จะต้องมีการพิสูจน์ตรวจสอบ จะทำให้แน่ใจในคำตอบที่มีเหตุมีผล
เพราะฉะนั้น ปัญหาการแทนที่ จะไม่จำเป็นที่จะทำการวิเคราะห์ ในขั้นตอนสุดท้าย
ใช้สมการ 3.4 เพื่อหาค่า r
r = Ö(x2 + y2)
= Ö((-3.50 m)2 + (-2.50 m)2)
= 4.30 m
ใช้สมการ 3.3 เพื่อหาค่า q
tan q = y/x
= (-2.50 m)/(-3.50 m)
= 0.714
q = 216° ตอบ
ข้อสังเกต ทำไมต้องใส่เครื่องหมายลบที่ x และ y นั่นก็เพราะจะได้ทราบจุดตำแหน่งของระบบพิกัดได้นั่นเอง
นั่นคือ q = 216° (นับทวนเข็มนาฬิกา) ซึ่งไม่ใช่ 35.5° (นับตามเข็มนาฬิกา) ที่ซึ่ง ค่าแทนเจนท์ มันเป็น 0.714 เช่นกัน
ข้อคิดดี ๆ ที่นำมาฝาก
“ปัญหาชีวิตที่พบเจอ
เมื่อแพ้ จะเป็นถ่าน
แต่ถ้าผ่าน จะกลายเป็นเพชร”