บทความ
 เคมี (Chemistry)
 สู่อิสรภาพทางการเงิน (To Financial Freedom)
 การคำนวณ และออกแบบ (Calculation and design)
 เทคโนโลยีการเกษตร (Agricultural Technology)
 เครื่องมือกล (Machine tools)
 Laws of Nature
 อวกาศ
 พลังงาน
 อิเล็กทรอนิกส์
 ทฤษฏีสัมพัทธภาพ
 ไครโอเจนิกส์
 เฮลิคอปเตอร์
 เกียร์อัตโนมัติ
 โทรศัพท์มือถือ
 ยาง
 รถไฟความเร็วสูง
 คลัตช์ และกระปุกเกียร์ธรรมดา
 เจ็ทแพ็ค
 แผ่นดินไหว
 คู่มือ ต้องรอด
 โรงไฟฟ้าพลังน้ำ
 ดาวเทียม
 เชื่อมโลหะใต้น้ำ
 กังหันลมผลิตไฟฟ้า
 เครื่องยนต์ดีเซล
 เครื่องยนต์เบนซิน
 คัมภีร์สงครามซุนวู ฉบับเข้าใจง่าย
 โลหะ
 ฟิสิกส์
 ปัญหาพระยามิลินท์
 ยานยนต์สมัยใหม่
 แมคาทรอนิกส์
 เครื่องกล 6 แกน
 เครื่องยนต์เจ็ท
 หุ่นยนต์
 สินค้า ผลงาน
 เขียนแบบ
 ออกแบบ คำนวณ
 วางโครงการ
 งานโลหะ
 อุปกรณ์
 เครื่องกล
วันนี้ 1,466
เมื่อวาน 984
สัปดาห์นี้ 12,495
สัปดาห์ก่อน 29,853
เดือนนี้ 59,652
เดือนก่อน 65,987
ทั้งหมด 4,874,904
  Your IP :3.15.141.155

ฟิสิกส์คลาสสิก (Classic physics) ประกอบไปด้วยหลักการความรู้ด้าน กลศาสตร์คลาสสิก, อุณหพลศาสตร์, แสง และแม่เหล็กไฟฟ้า ได้ถูกพัฒนาก่อนปี พ.ศ. 2530 หรือก่อนศตวรรษที่ 19 นักวิทยาศาสตร์ที่สำคัญของฟิสิกส์คลาสสิกนี้มีหลายคน หนึ่งในนั้น ที่สำคัญก็คือ เซอร์ ไอแซค นิวตัน (Sir Isaac Newton) (พ.ศ. 2185 - 2270)

 

รูปเซอร์ ไอแซค นิวตัน

แนะนำเพื่อให้อ่านได้ต่อเนื่องให้ คลิกขวาเลือก Open link in new window

 

และนอกจากนี้เขายังเป็นผู้ที่ให้กำเนิดวิชา แคลคูลัส (Calculus) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่สำคัญอย่างหนึ่งในทางคณิตศาสตร์อีกด้วย

 

รูปตัวอย่างสมการแคลคูลัส

 

      กลศาสตร์ได้เริ่มพัฒนาในช่วงศตวรรษที่ 18 เริ่มแรกก่อนเพื่อน แต่ความรู้ในด้านของอุณหพลศาสตร์ และแม่เหล็กไฟฟ้ายังไม่ได้รับการพัฒนา จนกระทั่งก้าวเข้าสู่ศตวรรษที่ 19 จึงเริ่มมีการพัฒนา ส่วนสาเหตุที่ยังไม่พัฒนา ก็เพราะว่า เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองในขณะนั้นยังไม่ก้าวหน้าเท่าที่ควร

 

รูปจำลองรูหนอน (Wormhole) แนวคิดของฟิสิกส์สมัยใหม่

 

 

      การปฏิวัติในทางฟิสิกส์โดยหลักๆ และมีความสำคัญอย่างยิ่ง นั่นก็คือการเกิดขึ้นของ ฟิสิกส์สมัยใหม่ (Modern physics) ซึ่งเริ่มต้นคิดในปลายศตวรรษที่ 19 การที่ฟิสิกส์สมัยใหม่ถูกพัฒนาขึ้นเป็นหลักใหญ่ ก็เนื่องมาจากว่า มีปรากฏการทางฟิสิกส์มากมายไม่สามารถอธิบายได้ในวิชาฟิสิกส์แบบคลาสสิก ส่วนวิชาที่สำคัญจากการพัฒนาฟิสิกส์สมัยใหม่นั่นก็คือ ทฤษฏีสัมพันธ์ภาพ และกลศาสตร์ควอนตัม

      วัตถุประสงค์หลักของการศึกษาวิชาฟิสิกส์ นั่นก็คือ เพื่อการระบุจำนวน, เพื่อจำกัดกฎพื้นฐาน ในการวางระเบียบต่อปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้น และใช้สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ เพื่อนำไปพัฒนาให้เป็นทฤษฏีให้สามารถทำการพยากรณ์ผลการทดลองที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยกฎที่จะนำมาสร้างเป็นทฤษฏีจะอธิบายออกมาในรูปแบบสมการทางคณิตศาสตร์ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้เป็นสะพานเชื่อมโยงกันระหว่างภาคทฤษฏี และภาคปฏิบัติ

      เมื่อเกิดผลความแตกต่างกัน ในระหว่างสองสิ่งที่เหมือนกัน  จากการคาดการณ์ผลของทฤษฏี และปฏิบัติ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการแก้ไข หรือค้นหาทฤษฏีใหม่เพื่อกำจัดผลความแตกต่างระหว่างสองสิ่งที่เหมือนกัน

      บ่อยครั้งที่ทฤษฏีที่มีอยู่ ก็สามารถอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างเพียงพอ แต่ก็มีบางครั้งทฤษฏีที่มีอยู่ขณะนั้น ก็ไม่อาจค้นหาข้อเท็จจริงได้ ยกตัวอย่าง กฎการเคลื่อนที่ ค้นพบโดย เซอร์ไอแซค นิวตัน  สามารถอธิบายการเคลื่อนที่ของวัตถุที่ความเร็วปกติได้อย่างถูกต้อง แต่ทว่าไม่สามารถใช้อธิบายกับวัตถุที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่เข้าถึงความเร็วแสง ซึ่งต่อมา ทฤษฏีสัมพันธภาพพิเศษ (Special relativity) ก็ได้ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อตอบคำถามที่ยังไม่รู้ ผู้คิดค้นทฤษฏีนี้ก็คือ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein) (พ.ศ. 2422 - 2498)

 

รูปอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์

 

รูปทฤษฏีสัมพันธ์ภาพพิเศษของไอน์สไตน์

 

การคำนวณให้ผลเช่นเดียวกับกฎของนิวตันที่วัตถุเคลื่อนที่ในความเร็วต่ำ แต่ที่เหนือกว่านั้นก็คือการกล่าวถึงวัตถุเคลื่อนที่ด้วยความเร็วแสงได้อย่างถูกต้องเช่นกัน

      ดังนั้น ทฤษฏีสัมพันธภาพพิเศษของไอน์สไตน์ เป็นมากกว่าทฤษฏีทั่วไปของการเคลื่อนที่ที่ได้จากกฎของนิวตัน

      ทฤษฏีสัมพันธภาพพิเศษของไอน์สไตน์ ไม่เพียงแต่อธิบายการเคลื่อนที่ของวัตถุได้อย่างถูกต้องเท่านั้น มันยังสามารถอธิบายการเคลื่อนที่ของวัตถุเมื่อความเร็วเทียบเท่ากับความเร็วของแสงได้ มันสามารถอธิบายได้อย่างสมบูรณ์ ในแนวคิดของ อวกาศ, เวลา และพลังงาน

ในทฤษฏียังแสดงให้เห็นถึงความเร็วของแสง นั่นคือ แสงมีความเร็วที่มีขีดจำกัด ในความเร็วของวัตถุ, มวล และพลังงานจะมีความสัมพันธ์ซึ่งกัน และกัน

      กลศาสตร์ควอนตัม เป็นสูตร และสมการที่สร้างขึ้นโดยกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำ เพื่อใช้อธิบายปรากฏการณ์ทางฟิสิกส์ในระดับของอะตอม โดยมีอุปกรณ์จำนวนมากมายที่เราใช้งานกันอยู่ทุกวันนี้ได้มาจากการพัฒนาโดยใช้หลักการของกลศาสตร์ควอนตัม

 

รูปอะตอมในแนวคิดกลศาสตร์ควอนตัม

 

รูปวงจรรวม หรือไอซีเป็นประโยชน์หนึ่งที่ได้มาจากความรู้ของกลศาสตร์ควอนตัม (ไฟล์รูปใหญ่หน่อย)

 

      วิทยาศาสตร์ยังคงสร้างความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ในการพัฒนาความรู้ความสามารถที่มีแนวคิดจากกฎพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ ตัวอย่างผู้ใช้ความคิดในทางวิทยาศาสตร์ เช่น นักวิทยาศาสตร์, วิศวกร และอื่น ๆ ได้สร้างสรรค์สิ่งที่เป็นความก้าวหน้า เช่น สำรวจดาวเคราะห์ด้วยยานอวกาศไร้มนุษย์ และการส่งคนไปลงบนดวงจันทร์, วงจรไฟฟ้าขนาดเล็กมาก ๆ  และคอมพิวเตอร์ทำงานด้วยความเร็วสูง, เทคนิคการถ่ายภาพที่มีความซับซ้อนเพื่อใช้ในงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ และทางการแพทย์ และผลลัพธ์ที่น่าทึ่งในพันธุวิศวกรรมมากมาย

 

รูปยานบินอวกาศที่ไร้คนขับ เอ็ก 37 บี

 

รูปซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ประมวลผลด้วยความเร็วสูง

 

รูปโฮโลแกรม 3 มิติที่ใช้ในทางการแพทย์

 

      ผลของการพัฒนา และการค้นพบที่มีความยิ่งใหญ่ ยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ ในอนาคตยังคงมีความท้าทายต่อการค้นพบ และมีประโยชน์มากมายมหาศาลแก่มวลมนุษยชาติ 

Share on Facebook
 
Google

WWW
http://www.thummech.com/
ฟังเพลงออนไลน์ คลิกเลย
 
Copyright © 2013-2015 Thummech All Rights Reserved. 
Powered by  ThaiWebPlus 
คนธรรมดามีความรู้คือคนฉลาด คนฉลาดมีความเข้าใจคือคนธรรมดา