ปัญหาที่ ๔ นกกระจอก
พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า “ดูก่อนพระนาคเสน ผู้ปฏิบัติต้องถือองค์ ๑ แห่งนกกระจอกนั้น เป็นไฉน”
รูปนกกระจอก
พระนาคเสนทูลตอบว่า “ขอถวายพระพร อันนกกระจอกย่อมอยู่อาศัยเรือนผู้อื่น แต่จะได้ถือเอาสิ่งใดสิ่งหนึ่งในเรือนนั้นก็หามิได้ มีใจเที่ยงตรงแน่วแน่ มากไปด้วยสัญญา อาศัยอยู่ฉันใด
ผู้ปฏิบัติก็ต้องกระทำ ฉันนั้น คือเมื่อเข้าไปสู่ตระกูลใด ๆ ไม่พึงถือเอานิมิตในบุคคล ในสิ่งของ พึงเป็นผู้มัธยัสถ์ ระมัดระวัง
ตน ตั้งสมณสัญญาให้ปรากฏมั่นไว้ในใจ
ดังนัยพุทธภาษิตว่า ภิกษุเข้าไปสู่ตระกูลในพระปานะ หรือโภชนะพึงขบฉันพอประมาณ แต่อย่าพึงทำใจให้หลงใหลในรูป”
พระเจ้ามิลินท์ตรัสว่า “ชอบแล้ว”
ปัญหาที่ ๕ นกเค้า
พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า “ดูก่อนพระนาคเสน ผู้ปฏิบัติต้องถือองค์ ๒ แห่งนกเค้านั้น เป็นไฉน”
รูปนกเค้า
พระนาคเสนทูลตอบว่า “ขอถวายพระพร นิสัยนกเค้า
๑. เมื่อโกรธกาขึ้นมา พอถึงเวลากลางคืนก็ไปยังฝูงกาฆ่ากาเสีย
๒. เป็นสัตว์หลีกเร้นอยู่ ณ ที่ลับ
ขอถวายพระพร ผู้ปฏิบัติต้องทำตนให้กอปรด้วยองคคุณเช่นเดียวกับนกเค้านี้แล คือ
๑. อยู่ในที่สงัดแต่ผู้เดียว ประหารอวิชชาให้ขาดตลอดถึงราก
๒. หลีกเร้นบำเพ็ญสมณธรรมอยู่ในป่า ดังบาลีซึ่งมีใจความว่า
ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้มีความสงัดเป็นที่มารื่นรมย์ ยินดีในความหลีกเร้น ย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ นี้สมุทัยเหตุให้เกิดทกุข์ นี้นิโรธความดับทุกข์ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา หนทางเครื่องดับทุกข์”
พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า “เธอว่านี้ดีแล้ว”
<หน้าที่แล้ว สารบัญ หน้าต่อไป>
|