ปัญหาที่ ๔ พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้พระอัครสาวก พร้อมทั้งภิกษุสงฆ์เข้าเฝ้า (สัพพัญญูสยปฌามปัญหา)
พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า “ดูก่อนพระนาคเสน เธอว่ามาในเบื้องต้นว่า พระพุทธเจ้าเป็นสัพพัญญูรู้ทุกสิ่งทุกอย่างดังนี้มิใช่หรือ”
พระนาคเสนทูลตอบว่า “ขอถวายพระพร เป็นดังพระองค์ตรัสนั้นแล”
ม: “ก็เหตุไฉน เมื่อพระภิกษุสงฆ์มีพระสารีบุตร เป็นต้น ถูกขับไล่ ต่อเมื่อเจ้าศากยราช นำเอาคติ (แบบอย่าง วิธี แนวทาง) ของโคหนุ่มมา (เรื่องที่เชิงอรรถแห่งปัญหาที่ ๓) เปรียบเทียบทูลชี้แจงถวาย จึงทรงรู้ไม่เท่าทันถึงคติของผู้น้อยเล่า”
น: “ขอถวายพระพร พระพุทธเจ้าเป็นสัพพัญญูรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง ดังอาตมภาพ ถวายวิสัชนามาในเบื้องต้นนั้นแล พระองค์เป็นธัมมสามี เจ้าของแห่งธรรม แต่ทว่า เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายเอาธรรมของพระองค์ มาย้อนเปรียบถวายให้ทรงยินดี
เปรียบเหมือนสตรีเอาทรัพย์ของสามีมาตั้งเรียงไว้ให้สามีชม ครั้งสามีเห็นแล้วก็ดีใจ ฉะนั้น”
ม: “ฟังได้”
จบสัพพัญญูสยปฌามปัญหา
ปัญหาที่ ๕ ผู้บวชมีโอกาสได้หนทางดับทุกข์มากกว่าคนธรรมดา (คีหิปัพพชิตปฏิปันนวัณณนปัญหา)
พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า “ดูก่อนพระนาคเสน พระพุทธพจน์มีอยู่ว่า
‘ฆราวาสก็ดี บรรพชิตก็ดี เมื่อหมั่นปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบแล้ว ก็ย่อมได้บรรลุ มรรคผลเหมือนกัน’
ฉะนี้มิใช่หรือ”
พระนาคเสนทูลตอบว่า “ขอถวายพระพร เป็นดังพระองค์ตรัสนั้นแล”
ม: “ถ้าอย่างนั้นพวกเธอจะบวชทำไม ลำบากเปล่า ๆ ต้องโกนผม โกนหนวด ต้องสำรวมกายวาจาใจ
ส่วนฆราวาสสิมีของบำเรอสุขสบายทุกอย่าง ทุกประการ แต่เมื่อปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแล้ว ก็ย่อมได้บรรลุมรรคผลเหมือนกัน ถ้าเป็นเช่นนี้ฆราวาสจะมิดีกว่าหรือ”
น: “ขอถวายพระพร ฆราวาสจะดีกว่าบรรพชิตไปได้อย่างไร เพราะว่า เพศบรรพชิตย่อมทรงคุณพิเศษยิ่งกว่าฆราวาสทุกอย่างทุกประการ
ยิ่งกว่านี้ ยังมีทางที่จะได้บรรลุมรรคผลได้เร็วกว่าเพราะบรรพชิตไม่ต้องเสียเวลาที่จะต้องทำงาน เพื่อแสวงหาสิ่งที่จำเป็น เช่น เครื่องนุ่งห่ม อาหาร หรือที่อยู่อย่างฆราวาส
รูปวัดสวนโมกขพลาราม
รูปพระสงฆ์ปฏิบัติธรรม (ที่สวนโมกขพลาราม)
มีโอกาสที่จะพึงประพฤติ มักน้อยสันโดษยินดีในที่สงัดเงียบ และตัดความกังวลทั้งหลายเสียได้ เพราะไม่มีสิ่งบำเรอความสุข
ซึ่งจะมาหน่วงเหนี่ยวใจให้เกิดความยินดีและความอาลัย หาโอกาสที่จะพึงกระทำศีลสมาธิปัญญาให้บริบูรณ์ยิ่ง ๆ ขึ้นได้
ขอถวายพระพร ก็เมื่อบรรพชิตมีโอกาสได้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบถึงอย่างนี้ บรรพชิตจะมิดีกว่าฆราวาสหรือ”
ม: “ถ้าเป็นอย่างนี้ก็ดีกว่า”
จบคีหิปัพพชิตปฏิปันนวัณณนปัญหา