บทความ
 เคมี (Chemistry)
 สู่อิสรภาพทางการเงิน (To Financial Freedom)
 การคำนวณ และออกแบบ (Calculation and design)
 เทคโนโลยีการเกษตร (Agricultural Technology)
 เครื่องมือกล (Machine tools)
 Laws of Nature
 อวกาศ
 พลังงาน
 อิเล็กทรอนิกส์
 ทฤษฏีสัมพัทธภาพ
 ไครโอเจนิกส์
 เฮลิคอปเตอร์
 เกียร์อัตโนมัติ
 โทรศัพท์มือถือ
 ยาง
 รถไฟความเร็วสูง
 คลัตช์ และกระปุกเกียร์ธรรมดา
 เจ็ทแพ็ค
 แผ่นดินไหว
 คู่มือ ต้องรอด
 โรงไฟฟ้าพลังน้ำ
 ดาวเทียม
 เชื่อมโลหะใต้น้ำ
 กังหันลมผลิตไฟฟ้า
 เครื่องยนต์ดีเซล
 เครื่องยนต์เบนซิน
 คัมภีร์สงครามซุนวู ฉบับเข้าใจง่าย
 โลหะ
 ฟิสิกส์
 ปัญหาพระยามิลินท์
 ยานยนต์สมัยใหม่
 แมคาทรอนิกส์
 เครื่องกล 6 แกน
 เครื่องยนต์เจ็ท
 หุ่นยนต์
 สินค้า ผลงาน
 เขียนแบบ
 ออกแบบ คำนวณ
 วางโครงการ
 งานโลหะ
 อุปกรณ์
 เครื่องกล
วันนี้ 954
เมื่อวาน 1,871
สัปดาห์นี้ 7,059
สัปดาห์ก่อน 15,976
เดือนนี้ 69,985
เดือนก่อน 47,501
ทั้งหมด 4,337,872
  Your IP :3.88.60.5

ปัญหาที่ ๔ เหตุให้เกิดแผ่นดินไหวในทางพระพุทธศาสนา (ภูมิจลนปัญหา)

 

      พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า “ดูก่อนพระนาคเสน เหตุซึ่งทำให้แผ่นดินไหวมีเท่าไร”

 

      พระนาคเสนทูลตอบว่า “มี ๘ อย่าง คือ

 

๑.                ลมกำเริบ   

๒.                ผู้มีฤทธิ์บันดาล

๓.               พระโพธิสัตว์จุติ

๔.            พระโพธิสัตว์อุบัติ   

๕.            ตรัสรู้

๖.                ตรัสปฐมเทศนา

๗.           ปลงพระชนมายุ

๘.           นิพพาน

 

ขอถวายพระพร ตามที่ปรากฏในบาลีประเทศมี ๘ อย่างเท่านี้”

 

      ม: “ถ้ามีแต่เพียง ๘ อย่างเท่าที่เธอว่า ก็ยังไม่ครบเพราะปรากฏว่า เมื่อคราวพระเวสสันดร ทรงบริจาคสัตตสดกมหาทาน (คือสิ่งละ  ๗๐๐  มีระบุไว้ดังนี้ ช้าง ๗๐๐, ม้า ๗๐๐, รถเทียมม้า ๗๐๐, แม่โค ๗๐๐) แผ่นดินก็ไหวถึง ๗ ครั้ง นั่นมิใช่เหตุอย่างใดอย่างหนึ่งใน ๘ อย่างนั้นมิใช่หรือเธอ”

 

      น: “ขอถวายพระพร ถูกแล้ว”

 

      ม: “ถ้าเช่นนั้น ที่เธอว่าเพียง ๘ เท่านั้นจะมิผิดไปหรือ”

 

      น: “ขอถวายพระพร ไม่ผิด เพราะการบำเพ็ญทานใหญ่ถึงปานนี้ จนแผ่นดินไหว ๗ ครั้ง มิได้เป็นอยู่ทุกยุคทุกสมัย ต่อหลายกัปป์ หลายกัลป์ จึงจะมีขึ้นสักครั้งสักคราวหนึ่ง ส่วนเหตุ ๘ ประการที่ท่านระบุไว้นั้น ย่อมมีอยู่เนืองๆ และทั้งเป็นเหตุการณ์สำคัญ ๆ เพราะฉะนั้นท่านจึงกล่าวว่ามี ๘ ประการเท่านั้น”

 

      ม: “เธอจะหาตัวอย่างมาเปรียบให้ฟัง”

 

      น: “เหมือนอำมาตย์ของพระมหากษัตริย์  แม้จะมีอยู่มากมายแต่ก็เพียง ๖ คนเท่านั้น ซึ่งปรากฏชื่อว่าอำมาตย์ ก็คือ

 

๑.                เสนาบดี  

๒.                ปุโรหิต  

๓.               ผู้พิพากษา 

๔.            ขุนคลัง

๕.            ผู้เชิญพระกลด   

๖.                ผู้เชิญพระแสง

 

นี้ฉันใด เหตุแห่งแผ่นดินไหวก็ฉันนั้นเหมือนกัน ท่านระบุไว้แต่ที่สำคัญ ๆ และที่เกิดมีอยู่เนือง ๆ เท่านั้น ส่วนเหตุประการอื่นนอกจากนี้ท่านหาได้กล่าวไว้ด้วยไม่ เพราะมีชั่วครั้งหนึ่งคราวเดียวเท่านั้น ขอถวายพระพร ขอให้พระองค์ทรงนึกดูว่า เคยได้ยินใครกล่าวบ้างว่าผู้นั้นผู้นี้ให้ทานแล้วแผ่นดินไหวถึง ๗ ครั้ง ซึ่งนอกจากพระเวสสันดร”

 

      ม: “ไม่เคยได้ยินใครพูดเลยเธอ”

 

      น: “แม้อาตมภาพก็ไม่เคยได้ยินใครพูดเช่นเดียวกับพระองค์เหมือนกัน การที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าพระเวสสันดรทรงบริจาคทานโดยมีพระหฤทัยผ่องใสมุ่งธรรมเป็นใหญ่ มิได้ทรงบริจาคโดยหวังลาภยศสรรเสริญ หรือจะกันเขานินทาก็หามิได้”

 

      ม: “เธอว่าเช่นนี้ชอบแล้ว”

 

จบภูมิจลนปัญหา

 

 

 

ปัญหาที่ ๕ พระเจ้าสิวิราชทรงควักพระเนตร แล้วได้ตาทิพย์ (สีวิรัญโญจักขุทานปัญหา)

 

      พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า “ดูก่อนพระนาคเสน คำที่ว่าคนตาบอดมีจักษุประสาทพิการแล้ว ย่อมไม่มีโอกาสที่จะกลับเห็นได้อย่างเดิมอีกนั้น มีกล่าวไว้ในพระสูตรบ้างหรือไม่”

 

      พระนาคเสนทูลตอบว่า “ขอถวายพระพร มี”

 

      ม: “ถ้าเช่นนั้น เรื่องสีวิราชชาดกที่ว่า พระเจ้าสีวิราชทรงควักพระเนตรทั้ง ๒ ให้เป็นทาน มีพระจักษุประสาทพิการแล้ว แต่ต่อมาทรงได้พระจักษุประสาทคืนดี ทอดพระเนตร เห็นได้เหมือนอย่างเดิมนั้น จะมิไม่จริงหรือ”

 

      น: “ขอถวายพระพร จริง”

 

      ม: “ถ้าจริงจะให้ข้าพเจ้าลงความเชื่อคำไหนได้เล่า”

 

      น: “ขอถวายพระพร คำต้นนั้นท่านกล่าวตามปรกติวิสัยของนัยน์ตา ซึ่งเมื่อพิการแล้วย่อมคืนดีอย่างเดิมไม่ได้

 

      ส่วนที่ท่านกล่าวไว้ในชาดกซึ่งผิดจากคำเบื้องตนไปนั้นก็เพราะท่านกล่าวด้วยสามารถแห่งอานุภาพของสัตยาธิษฐาน (อ่านว่า สัด-ตะ-ยา-ทิด-ถาน: A vow) คือความตั้งใจไว้มั่นในความจริงอย่างใดอย่างหนึ่ง

 

      ขอถวายพระพร พระองค์เคยทอดพระเนตรเห็น หรือเคยได้ทรงสดับบ้าง หรือไม่ว่าผู้ที่กระทำสัตยาธิษฐานแล้วอาจทำให้ฝนตกหรือไฟดับ หรือกำจัดกำลังแห่งยาพิษเสียก็ได้”

 

 

รูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

 

 

 “พระบาทสมเด็จพระนเรศวรเป็นเจ้า จึงตรัสประกาศแก่เทพยดาทั้งปวง ให้บังเกิดในประยูรมหาเศวตฉัตร จะให้บำรุงพระบวรพุทธศาสนา ไฉนจึงมิช่วยให้สว่างแลเห็นข้าศึกเล่า พอตกพระโอษฐ์ลง พระพายก็พัดควันอันเป็นหมอกมืดนั้นสว่างไป ทอดพระเนตรเห็นข้างเศวตฉัตร 16 ข้าง มีข้างดั้งข้างกันยืนอยู่เป็นอันมาก... 

     

      ม: “ก็เคยได้เห็นได้ยินอยู่บ้าง”

 

      น: “นั่นพระองค์ทรงเข้าพระหฤทัยว่าเป็นได้ด้วยอะไร”

 

      ม: “เข้าใจว่า เป็นด้วยอานุภาพแห่งสัตยาธิษฐาน”

 

      น: “นั่นแลฉันใด นี่ก็ฉันนั้นเหมือนกัน จักษุประสาทของพระเจ้าสีวิราชย่อมกลับคืนดีได้อย่างเดิม ก็ด้วยอานุภาพแห่งสัตยาธิษฐาน คือการที่ทรงตั้งพระหฤทัยมั่นอยู่ในความจริงอย่างใดอย่างหนึ่งนั่นเอง

 

      ขอถวายพระพร อาตมภาพจะเล่าเรื่องของพระเจ้าอโศกถวาย คือครั้งหนึ่งพระเจ้าอโศกเสด็จไป ประพาสริมแม่น้ำคงคา ครั้นแล้วมีพระราชดำรัสถามเหล่าอำมาตย์ว่า ผู้ที่สามารถทำให้น้ำในแม่น้ำคงคานี้ไหลกลับทวนกระแสไปได้ เห็นจะไม่มี

 

      ก็ขณะนั้นมีหญิงแพศยาคนหนึ่ง ชื่อนางพินทุมดีอยู่ ณ ริมฝั่งน้ำนั้น  เมื่อได้ยินพระราชดำรัสดังนั้น จึงกระทำสัตยาธิษฐาน ขอให้น้ำไหลกลับทวนกระแส เพื่อถวายทอดพระเนตรน้ำในแม่น้ำคงคาก็ไหลกลับทวนกระแสตามความประสงค์ พระเจ้าอโศกทรงพิศวงในพระราชหฤทัย จึงตรัสถามว่า เหตุอะไรจึงเป็นเช่นนี้ อำมาตย์จึงกราบทูลว่า ขอเดชะ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่านางพินทุมดีกระทำสัจจกิริยาขอให้น้ำไหลกลับ

 

      จึงเสด็จพระราชดำเนินไปตรัสถามนางพินทุมดีว่า อะไรเป็นกำลังในสัจจกิริยาของเจ้า ขอเดชะ กระหม่อมฉันมีความจริงใจอยู่อย่างหนึ่ง คือการบำเรอบุรุษ กระหม่อมฉันกระทำเสมอหน้ากันหมด จะเป็นใคร มีฐานะอย่างไรก็ตาม เมื่อให้ทรัพย์แก่กระหม่อมฉันแล้ว ย่อมได้รับการบำเรอเป็นอย่างเดียวกันสิ้น กระหม่อมฉันอ้างความจริงใจนี้กระทำสัตยาธิษฐาน

 

ขอถวายพระพร เรื่องนี้พระองค์ทรงเชื่อหรือไม่”

 

      ม: “เชื่อสิเธอ เพราะมีเหตุผลพอที่จะคิดเห็นได้”

 

      น: “ขอถวายพระพร นี่ชี้ให้เห็นว่า การกระทำสัตยาธิษฐาน คือกิริยาที่กล่าวอ้างถึงความจริงอย่างใดอย่างหนึ่ง แม้เป็นความจริงในสิ่งลามกก็ให้เกิดผลได้สมประสงค์ ก็เมื่อความจริงมีอยู่เช่นนี้

 

      ไฉนพระเจ้าสีวิราชผู้มีพระราชหฤทัยมั่นในการทรงบำเพ็ญทาน จึงจะไม่ได้พระเนตรกลับดีอย่างเดิมในเมื่อทรงกระทำสัตยาธิษฐานอ้างถึงความจริงนั้นๆ ได้เล่า”

 

      ม: “เธอว่านี้ชอบแล้ว”

 

จบสีวิรัญโญจักขุทานปัญหา

 

 

Share on Facebook
 
Google

WWW
http://www.thummech.com/
ฟังเพลงออนไลน์ คลิกเลย
 
Copyright © 2013-2015 Thummech All Rights Reserved. 
Powered by  ThaiWebPlus 
คนธรรมดามีความรู้คือคนฉลาด คนฉลาดมีความเข้าใจคือคนธรรมดา