ปัญหาที่ ๖ น้ำตาแบบไหนจัดเป็นยา (อัสสุปัญหา)
พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า “ดูก่อนพระนาคเสน ผู้หนึ่งบิดามารดาตายเสียใจร้องไห้ อีกผู้หนึ่งร้องไห้เพราะใคร่จะประพฤติธรรม น้ำตาของคนทั้งสองนี้ ของคนไหนเป็นยา”
พระนาคเสนทูลตอบว่า “ขอถวายพระพร น้ำตาของคนแรก ขุ่นร้อนเพราะไฟ คือความรักใคร่และหลงใหลมิรู้เท่าความเป็นจริงของสังขาร
แต่น้ำตาของคนหลังใสเย็นเพราะกลั่นมาแต่ความอิ่มเอิบใจ เป็นอันว่าเป็นยาได้”
ม: “ชอบแล้ว”
จบอัสสุปัญหา
ปัญหาที่ ๗ คนมีกำหนัด กับคนไม่มี มีข้อเหมือนกันบ้างหรือไม่ (รสปฏิสังเวทีปัญหา)
พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า “ดูก่อนพระนาคเสน คนที่ยังมีความกำหนัดอยู่กับคนที่ไม่มีความกำหนัดแล้ว ต่างกันหรือเหมือนกัน”
พระนาคเสนทูลตอบว่า “ขอถวายพระพร ต่างกัน คือคนหนึ่งยังมีความปรารถนา หรือความประสงค์อยู่อีก แต่อีกคนหนึ่งหามีความปรารถนาหรือความประสงค์ต่อไปอีกไม่”
ม: “ความเห็นของข้าพเจ้าเห็นว่า คนสองคนนั้นมีบางอย่างซึ่งยังเหมือนกันอยู่ คือ ชอบบริโภคอาหารที่ดีมีรสอร่อยเช่นเดียวกัน”
น: “ขอถวายพระพร ย่อมเป็นเช่นพระองค์ทรงเห็นนั้นแล แต่ถึงเช่นนั้น คน ๒ คนนั้นก็ยังต่างกันอยู่ คือคนที่ยังมีความกำหนัด ขณะเมื่อบริโภคอาหาร ย่อมรู้สึกรสอร่อยและทั้งยังติดใจในรสอาหารนั้นอีกด้วย
ส่วนคนที่ไม่มีความกำหนัดแล้ว ก็มีความรู้สึกในรสอาหารเช่นนั้นเหมือนกัน แต่มีเฉพาะเวลาบริโภคเท่านั้น หาได้มีจิตใจข้องอยู่ในรสอาหารนั้นๆ ต่อไปอีกไม่”
ม: “จริงอย่างเธอว่า”
จบรสปฏิสังเวทีปัญหา
|