ปัญหาที่ ๔ ที่ว่าพระพุทธเจ้าตั้งอยู่ในพรหมวิหาร จะกล่าวได้ว่าทรงเอาอย่างพรหมหรือ (พรหมจารีปัญหา)
พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า “ดูก่อนพระนาคเสน พระพุทธเจ้าทรงประกอบด้วยพระเมตตากรุณาอย่างเดียวกับพรหมมิใช่หรือ”
พระนาคเสนทูลตอบว่า “ขอถวายพระพร ถูกแล้ว”
ม: “ถ้าเช่นนั้น จะมิเป็นอันว่า พระพุทธเจ้าเอาอย่างมาจากพรหมหรือเธอ”
น: “อาตมภาพขอทูลถามพระองค์ก่อนว่า ช้างที่พระที่นั่ง เวลาร้องเคยร้องเสียงเหมือนเสียงนกกระเรียนมีบ้างหรือไม่”
ม: “เคยมีอยู่บ้าง”
น: “ขอถวายพระพร ช้างนั้นจำเสียงนกกระเรียนมาร้องหรือ”
ม: "หามิได้ เสียงที่ช้างร้องอย่างนั้น ก็โดยเป็นวิสัยของช้างซึ่งบางครั้งก็ร้องเสียงอย่างนั้น แต่เผอิญไปพ้องกับเสียงนกกระเรียนเข้า”
น: “นี่ก็เช่นนั้นแล ด้วยว่าวิสัยของพระพุทธเจ้าทั้งหลายย่อมมีพระอัธยาศัย กอบด้วยพระเมตตากรุณาอย่างเดียวกับพรหมทั้งหลาย ขอถวายพระพร แต่อาตมภาพใคร่จะทราบว่าพรหมรู้ธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าหรือไม่”
ม: “รู้สิเธอ”
น: “ถ้าอย่างนั้น พรหมก็คงเรียนคงจำไปจากพระพุทธเจ้า”
ม: “เห็นจะเป็นอย่างนั้น”
จบพรหมจารีปัญหา
ปัญหาที่ ๕ ใครเป็นผู้บวชให้พระพุทธเจ้า (อุปสัมปันนปัญหา)
พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า “ดูก่อนพระนาคเสน บวชกับไม่บวชไหนจะดี”
พระนาคเสนทูลตอบว่า “ขอถวายพระพร บวชดี”
ม: “ก็ถ้าบวชดี ทำไมพระพุทธเจ้าจึงไม่ทรงผนวชเล่า”
น: “ขอถวายพระพร พระพุทธเจ้าทรงผนวชเหมือนกัน”
ทันทีนั้น พระเจ้ามิลินท์ตรัสประกาศถ้อยคำของพระนาคเสนกะพวกราชบริษัท เพื่อให้เป็นพยานแล้ว จึงตรัสถามพระเถระว่า “ถ้าเช่นนั้น ใครเล่าเป็นอุปัชฌาย์อาจารย์”
น: “ขอถวายพระพร การผนวชของพระพุทธเจ้าไม่มีอุปัชฌาย์อาจารย์ เพราะว่าการผนวชนั้นมีมาพร้อมกับการตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าที่โคนไม้ศรีมหาโพธิ์
อาตมภาพจะขอเปรียบถวายอย่างฟังง่ายๆ เช่นการบริโภค
อาหารถึงไม่มีครูอาจารย์ก็บริโภคเป็น แม้การทรงผนวชของพระพุทธเจ้าก็เป็นเช่นเดียวกันกับการบริโภคอาหารนี้แล คือพระองค์ทรงรู้เอง เห็นเองซึ่งความจริงทั้งหลาย
ที่สุดจนหาเหตุผลวิธีการแห่งการบวชก็ทรงทราบชัดเจน เพราะฉะนั้นจึงหามีใครเป็นอุปัชฌาย์อาจารย์ของพระองค์ไม่”
ม: “เธอว่านี้ชอบแล้ว”
จบอุปสัมปันนปัญหา
|