บทความ
 เคมี (Chemistry)
 สู่อิสรภาพทางการเงิน (To Financial Freedom)
 การคำนวณ และออกแบบ (Calculation and design)
 เทคโนโลยีการเกษตร (Agricultural Technology)
 เครื่องมือกล (Machine tools)
 Laws of Nature
 อวกาศ
 พลังงาน
 อิเล็กทรอนิกส์
 ทฤษฏีสัมพัทธภาพ
 ไครโอเจนิกส์
 เฮลิคอปเตอร์
 เกียร์อัตโนมัติ
 โทรศัพท์มือถือ
 ยาง
 รถไฟความเร็วสูง
 คลัตช์ และกระปุกเกียร์ธรรมดา
 เจ็ทแพ็ค
 แผ่นดินไหว
 คู่มือ ต้องรอด
 โรงไฟฟ้าพลังน้ำ
 ดาวเทียม
 เชื่อมโลหะใต้น้ำ
 กังหันลมผลิตไฟฟ้า
 เครื่องยนต์ดีเซล
 เครื่องยนต์เบนซิน
 คัมภีร์สงครามซุนวู ฉบับเข้าใจง่าย
 โลหะ
 ฟิสิกส์
 ปัญหาพระยามิลินท์
 ยานยนต์สมัยใหม่
 แมคาทรอนิกส์
 เครื่องกล 6 แกน
 เครื่องยนต์เจ็ท
 หุ่นยนต์
 สินค้า ผลงาน
 เขียนแบบ
 ออกแบบ คำนวณ
 วางโครงการ
 งานโลหะ
 อุปกรณ์
 เครื่องกล
วันนี้ 230
เมื่อวาน 4,800
สัปดาห์นี้ 12,308
สัปดาห์ก่อน 12,965
เดือนนี้ 53,508
เดือนก่อน 76,610
ทั้งหมด 4,398,005
  Your IP :3.16.81.94

5.1.6 วิธีการเม้าส์-ทู-เม้าส์

 

      ในวิธีการนี้ของการช่วยให้เกิดการหายใจ โดยการขยายปอดของผู้บาดเจ็บ สามารถทำได้โดยการเป่าอากาศไปยังปากของผู้บาดเจ็บ วิธีการเมาส์-ทู-เมาส์ช่วยในการหายใจ การช่วยชีวิตแบบเมาส์-ทู-เมาส์มีวิธีการดังนี้

 

ส่วนแรก การช่วยหายใจของการใช้เมาส์-ทู-เมาส์

 

1) หากว่าผู้บาดเจ็บไม่หายใจ วางมือของคุณบนหน้าผากของเขา และบีบจมูกของเขาด้วยนิ้วหัวแม่มือ และนิ้วชี้ มือเดียวกันนี้ ปล่อยให้ออกแรงดันมือข้างเดียวกันบนหน้าผากของเขาเพื่อรักษาข้างหลังหัวที่เอียง และรักษาไว้ซึ่งการเปิดทางเดินหายใจ ด้วยมืออีกข้าง รักษาปลายมือของคุณขากรรไกรล่างใกล้คาง และยกขึ้น ดูที่รูปด้านล่าง

 

รูปเอียงหัว ยกคาง

แนะนำเพื่อให้อ่านได้ต่อเนื่องให้ คลิกขวาเลือก Open link in new window

 

 

รูปเอียงหัวยกคาง

 

2) สูดลมหายใจให้ลึก และวางปากของคุณ (กลั้นหายใจ) ไปประกบกับปากของผู้บาดเจ็บ ดูที่รูปด้านล่าง

 

 

รูปการช่วยให้หายใจ

 

 

รูปการช่วยให้หายใจ

 

วิดีโอวิธีการเมาส์-ทู-เมาส์

 

3) เป่าลมหายใจเต็มเข้าไปยังปากของผู้บาดเจ็บ (ใช้เวลา 1-1.5 วินาทีต่อการหายใจ หนึ่งครั้ง) สูดอากาศเข้าทุกครั้งก่อนที่จะเป่า ใช้หางตาของผู้ช่วยเหลือดูผู้บาดเจ็บ จะเห็นว่าบริเวณหน้าอกของผู้บาดเจ็บจะต้องพองขึ้น ถ้าหากหน้าอกพองขึ้นแสดงว่ามีอากาศที่เพียงพอไหลเข้าไปยังปอดของผู้บาดเจ็บ ให้ดำเนินการต่อในขั้นตอนที่สี่ด้านล่าง แต่หากว่าหน้าอกไม่พองขึ้น ให้ทำตามขั้นตอนด้านล่างต่อไปนี้

 

      - ดำเนินการแก้ไขการทำทางเดินหายใจทันที ให้ตรวจสอบว่าทำไมอากาศถึงเข้าไม่ได้ อาจจะรั่วบริเวณรอบปากที่เป่า หรือรั่วออกทางจมูกของผู้บาดเจ็บ

 

      - ลองทำการเป่าปากเอาอากาศเข้าซ้ำอีกครั้ง

 

      - หากหน้าอกยังไม่ขยายพองขึ้น มีความจำเป็นที่จะต้องทำการเปิดทางเดินหายใจที่อุดตัน (จะได้กล่าวถึงในรายละเอียดในบทนี้)

 

 เมื่อเสร็จแล้วก็พยายามทำเป่าอากาศเข้าไปที่ผู้บาดเจ็บอีกครั้ง

 

หมายเหตุ หากการพยายามครั้งแรกในการระบายอากาศไม่สำเร็จ ให้ลองวางตำแหน่งศีรษะของผู้บาดเจ็บใหม่ และทำการช่วยให้หายใจได้อีกครั้ง เพราะว่าหากตำแหน่งการจัดคาง และหัวที่ไม่เหมาะสมอาจเป็นสาเหตุทำให้การหายใจลำบากได้ หากผู้บาดเจ็บไม่สามารถหายใจได้หลังจากที่เปลี่ยนตำแหน่ง จะต้องทำการแก้ปัญหาในเรื่องทางเดินหายใจอุดตัน (จะกล่าวในภายหน้าในบทนี้)

 

4) หลังจากเป่าปากให้ผู้บาดเจ็บจนหน้าอกพองขึ้น จากนั้นก็พยายามจับชีพจรแก่ผู้บาดเจ็บ โดยการใช้นิ้วมือ (นิ้วชี้ และนิ้วกลาง) สัมผัสที่ด้านข้างคอของผู้บาดเจ็บ ใกล้กับลูกกระเดือก (คลิกดู การจับชีพจร)

 

 

รูปการจับชีพจรที่บริเวณคอ

 

 

       รูปการจับชีพจร

 

(ไม่ควรใช้หัวแม่มือมาทำการจับชีพจร เพราะอาจเกิดความสับสนจากการเต้นของชีพจรของผู้ช่วยเหลือ กับผู้ได้รับบาดเจ็บได้) ยังคงรักษาทางเดินหายใจของผู้บาดเจ็บให้คล่อง โดยให้ใช้มือของคุณจับหน้าผากของผู้บาดเจ็บ การจับชีพจรอาจใช้ 5 – 10 วินาทีเพื่อตรวจสอบการเต้นของชีพจร

 

-                   หากพบการเต้นของชีพจร ของผู้บาดเจ็บขณะกำลังหายใจให้หยุด และให้ผู้ผู้บาดเจ็บหายใจเอง ที่เหลือก็คอยให้ตัวเขาอบอุ่น และอยู่ในท่าที่สบายที่สุด

 

-                   แต่ถ้าหากพบว่ามีการเต้นของชีพจร แต่ยังไม่สามารถหายใจได้ ให้ทำการช่วยเหลือเรื่องการหายใจอย่างต่อเนื่อง

 

-                   แต่ถ้าหากชีพจรไม่เต้น ให้หาทางไปพบหมอ หรือบุคคลากรทางการแพทย์ให้เร็วที่สุดเพื่อขอความช่วยเหลือ 

 

 

 

ส่วนที่สอง ขั้นตอนการช่วยหายใจของการใช้เมาส์-ทู-เมาส์

 

      การช่วยให้หายใจ (ด้วย ปากกับปาก หรือแม้แต่ปากกับจมูก) ให้ดำเนินการเป่าลมหายใจทุก ๆ 5 วินาที (ทำได้ 12 ครั้งต่อนาที) ให้ช่วยการหายใจได้ สลับกับการตรวจสอบชีพจร หลังจากการทำการเป่าปากไปแล้ว 12 ครั้ง สลับกัน การจับชีพจรทำได้ 3-5 วินาที ดูขั้นตอนการปฏิบัติได้จากด้านล่าง

 

หมายเหตุ ให้ขอความช่วยเหลือ (ช่วยเหลือทางการแพทย์) ได้เลย หากไม่ได้ทำตามขั้นตอน ไว้ก่อนหน้านี้

 

ขั้นตอนมีดังนี้

 

1) หากผู้บาดเจ็บไม่หายใจ บีบจมูกของผู้บาดเจ็บด้วยนิ้วหัวแม่มือ กับนิ้วชี้ของมือบนหน้าผากเขา และปล่อยให้ดันมือทำให้ศีรษะเอียงไปข้างหลัง ดูรูป

 

รูปเอียงหัว ยกคาง (ซ้ำ)

 

 2) สูดลมหายใจเข้าให้ลึก และประกบปากของผู้ช่วยเหลือ กับผู้บาดเจ็บ (เพื่อผนึกซีลไม่ให้อากาศรั่ว) ดูรูปด้านล่าง

 

รูปการช่วยให้หายใจ (ซ้ำ)

 

3) เป่าลมหายใจอย่างรวดเร็วไปยังปากของผู้บาดเจ็บ เพื่อที่จะทำให้หน้าอกของผู้บาดเจ็บพองขึ้น เมื่อหน้าอกพองขึ้น แสดงว่าปอดของผู้บาดเจ็บได้รับอากาศเพียงพอ

 

4) เมื่อหน้าอกของผู้บาดเจ็บพองขึ้น ให้เอาปากออกจากปากของผู้บาดเจ็บ และฟังสำหรับอากาศที่ออกมาจากปอดอีกครั้ง (หายใจออก)

 

5) ทำซ้ำขั้นตอนนี้ (เม้าส์-ทู-เม้าส์ช่วยชีวิต) ที่อัตราการทำ 1 ครั้ง ทุก ๆ 5 วินาที เพื่อให้ได้  การเป่าลมหายใจ 12 ครั้งต่อนาที หากไม่มีนาฬิกาให้นับดังต่อไปนี้ (เหมือนทหารนับจับเวลา) “หนึ่งพันหนึ่ง (One, one-thousand), หนึ่งพันสอง (Two, one-thousand), หนึ่งพันสาม (Three, one-thousand), หนึ่งพันสี่ (Four, one-thousand) , หนึ่งพันห้า (Five, one-thousand)” เป็นต้น เพื่อให้การเป่าอากาศหายใจทุก ๆ 5 วินาที และการหายใจต้องเอาปากที่ประกบออกในการนับครั้งที่ห้า

 

6) ให้คอยตรวจสอบชีพจรหลังจากการทำเมาส์-ทู-เมาส์ ทุก ๆ 12 ครั้ง การจับชีพจรประมาณ  3 – 5 วินาที ถ้าไม่พบการเต้นของชีพจร ให้เร่งหาแพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์สำหรับช่วยเหลือ

 

7) ให้ดำเนินการช่วยชีวิตอย่างต่อเนื่องจนกว่าผู้บาดเจ็บจะสามารถกลับมาหายใจได้เองอีกครั้ง ทำจนกระทั่งโล่งใจ และหากเหนื่อยเกินไปก็หาคนอื่นมาช่วย (ถ้ามี) ต้องตรวจสอบชีพจร และผลของการกลับมาหายใจทุกครั้งหลังจากช่วยเหลือการหายใจไม่กี่นาที หากผู้บาดเจ็บหายใจเองได้แล้ว ก็คอยดูแลอย่างใกล้ชิด ถ้าเป็นไปได้ควรส่งผู้บาดเจ็บไปยังสถานรักษาพยาบาล คงรักษาการเปิดทางเดินหายใจ และเตรียมพร้อมเสมอหากเกิดความจำเป็นที่จะต้องช่วยอีกครั้ง

 

 

 

 

 

 

ข้อคิดดี ๆ ที่นำมาฝาก

 

 

“ความปราถนาอย่างแรงกล้า นั่นแหละคือเหตุผล”

Share on Facebook
 
Google

WWW
http://www.thummech.com/
ฟังเพลงออนไลน์ คลิกเลย
 
Copyright © 2013-2015 Thummech All Rights Reserved. 
Powered by  ThaiWebPlus 
คนธรรมดามีความรู้คือคนฉลาด คนฉลาดมีความเข้าใจคือคนธรรมดา