บทความ
 เคมี (Chemistry)
 สู่อิสรภาพทางการเงิน (To Financial Freedom)
 การคำนวณ และออกแบบ (Calculation and design)
 เทคโนโลยีการเกษตร (Agricultural Technology)
 เครื่องมือกล (Machine tools)
 Laws of Nature
 อวกาศ
 พลังงาน
 อิเล็กทรอนิกส์
 ทฤษฏีสัมพัทธภาพ
 ไครโอเจนิกส์
 เฮลิคอปเตอร์
 เกียร์อัตโนมัติ
 โทรศัพท์มือถือ
 ยาง
 รถไฟความเร็วสูง
 คลัตช์ และกระปุกเกียร์ธรรมดา
 เจ็ทแพ็ค
 แผ่นดินไหว
 คู่มือ ต้องรอด
 โรงไฟฟ้าพลังน้ำ
 ดาวเทียม
 เชื่อมโลหะใต้น้ำ
 กังหันลมผลิตไฟฟ้า
 เครื่องยนต์ดีเซล
 เครื่องยนต์เบนซิน
 คัมภีร์สงครามซุนวู ฉบับเข้าใจง่าย
 โลหะ
 ฟิสิกส์
 ปัญหาพระยามิลินท์
 ยานยนต์สมัยใหม่
 แมคาทรอนิกส์
 เครื่องกล 6 แกน
 เครื่องยนต์เจ็ท
 หุ่นยนต์
 สินค้า ผลงาน
 เขียนแบบ
 ออกแบบ คำนวณ
 วางโครงการ
 งานโลหะ
 อุปกรณ์
 เครื่องกล
วันนี้ 49
เมื่อวาน 4,800
สัปดาห์นี้ 12,127
สัปดาห์ก่อน 12,965
เดือนนี้ 53,327
เดือนก่อน 76,610
ทั้งหมด 4,397,824
  Your IP :3.149.213.209

4.1 ภาพรวมของการดูแลสุขภาพ

 

      การที่คนเราจะสามารถมีชีวิตอยู่รอดได้นั้น สิ่งจำเป็นสำหรับการมีชีวิตขั้นพื้นฐานก็คือการได้รับน้ำ และอาหารที่เพียงพอ และถูกสุขลักษณะ

 

4.1.1 น้ำ (Water)

 

รูปน้ำดื่ม

แนะนำเพื่อให้อ่านได้ต่อเนื่องให้ คลิกขวาเลือก Open link in new window

 

      ร่างกายของคนเราจะสูญเสียน้ำ ในช่วงเวลาปกติผ่านทาง เหงื่อ, น้ำปัสสาวะ และการขับถ่าย ในระหว่างการออกแรงทำกิจกรรมต่าง ๆ ในแต่ละวัน ร่างกายของมนุษย์จะเกิดการสูญเสียน้ำออกจากร่างกาย โดยปกติที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส (68 องศาฟาเรนไฮต์) ผู้ใหญ่จะสูญเสียน้ำ โดยเฉลี่ยประมาณ 2 – 3 ลิตรต่อวัน จึงมีความจำเป็นจะต้องดื่มน้ำเพื่อมาทดแทน

 

      ยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีกหลายปัจจัย ที่ทำให้เกิดการสูญเสียน้ำเพิ่มขึ้น ยกตัวอย่างเช่น การอยู่ในอากาศที่ร้อน, การอยู่ในอากาศที่หนาวเย็น, การทำกิจกรรมที่รุนแรง, อยู่ในที่สูง

 

      การเผาผลาญในร่างกายที่สูง และการเจ็บป่วย อาจเป็นสาเหตุให้ร่างกายของคนเราสูญเสียน้ำได้มากยิ่งขึ้น จึงมีความจำเป็นที่จะต้องดื่มน้ำเพื่อทดแทนน้ำที่สูญเสียไป

 

      ผลจากการขาดน้ำ (Dehydration) เกิดจากการที่ดื่มน้ำเข้าไปทดแทนไม่เพียงพอกับน้ำที่สูญเสียไป มันจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของร่างกายลดลง และยิ่งมีการบาดเจ็บด้วยแล้ว ก็จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการช็อกอย่างรุนแรง ลองมาดูผลที่เกิดขึ้นจากการสูญเสียน้ำ

 

o   ถ้ามีการสูญเสียน้ำในร่างกายไปร้อยละ 5 จะทำให้เกิดการกระหายน้ำ (Thirst), หงุดหงิด (Irritability), คลื่นไส้ (Nausea) และอ่อนแรง (Weakness)

 

o   ถ้ามีการสูญเสียน้ำในร่างกายไปร้อยละ 10 จะทำให้เกิดการ วิงเวียนศีรษะ (Dizzines), ปวดศีรษะ (Headache), ไม่สามารถเดินได้ และมีความรู้สึกเสียวซ่า (Tingling sensation) ในแขนขา

 

o   ถ้ามีการสูญเสียน้ำในร่างกายไปร้อยละ 15 จะทำให้เกิด ตาพล่ามัว (Dim vision), เจ็บในเวลาปัสสาวะ, ลิ้นบวม (Swollen tongue), หูหนวก (Deafness) และมีอาการชาที่ผิวหนัง

 

o   ถ้ามีการสูญเสียน้ำในร่างกายเกินกว่าร้อยละ 15 อาจจะทำเสียชีวิตได้    

 

รูปสภาพของผู้ที่ขาดน้ำ

 

สัญญาณที่บอกให้เรารู้ว่า เรากำลังขาดน้ำในร่างกาย จะเกิดอาการดังนี้

 

§  ปัสสาวะมีสีเข้ม มีกลิ่นที่แรงมาก

 

§  ปัสสาวะออกมาน้อย

 

§  ตาดำจมลงไป (Dark, sunken eyes)

 

§  เกิดความเหนื่อยล้า

 

§  อารมณ์แปรปรวน

 

§  ผิวหนังสูญเสียความยืดหยุ่น ชุ่มชื้น

 

§  เล็บซีดไม่ค่อยมีสีเลือด

 

§  เส้นตรงกลางลิ้นบุ๋มลึกลงไป

 

§  เริ่มมีความกระหายน้ำ เมื่อเริ่มขาดน้ำในร่างกายไปร้อยละ 2 โดยเป็นไปตามระยะเวลาที่ขาดน้ำ

 

 

รูปลองทดสอบว่าเราขาดน้ำเบื้องต้น จากการหยิกผิวหนัง และปล่อยดูการคืนตัวของผิว

 

      จึงมีความจำเป็นอย่างมาก ที่จะต้องดื่มน้ำทดแทนน้ำที่สูญเสียไป และพยายามรักษาน้ำในร่างกายให้มีความสมดุล ซึ่งในสถานการณ์ที่จะต้องเอาตัวรอดอาจจะเป็นเรื่องยาก และการกระหายน้ำในช่วงเวลานั้น อาจจะเกิดขึ้นได้ แต่ยังไม่ใช่สัญญาณที่จะบ่งบอกว่าคุณต้องการน้ำมากเพียงใดจนเวลาผ่านไปซักระยะหนึ่งถึงจะเห็นอาการที่เด่นชัด

 

      คนส่วนใหญ่ไม่สามารถดื่มน้ำได้ทีเดียวมากกว่า 1 ลิตร เพราะมันจะจุก หรือดื่มไม่ทันอาจสำลัก ดังนั้น แม้เวลาที่ไม่กระหายน้ำ ก็ควรที่จะพยายามดื่มน้ำทีละน้อยอย่างสม่ำเสมอในแต่ละชั่วโมงเพื่อป้องกันการขาดน้ำ

 

      ถ้ามนุษย์เราอยู่ภายใต้ความเครียดที่เกิดขึ้นไม่ว่าทางกาย หรือจิตใจ หรืออยู่ภายใต้สภาวะที่มีความรุนแรง ควรเพิ่มการดื่มน้ำให้มากขึ้น การดื่มน้ำที่เพียงพอจะทำให้ร่างกายได้ขับปัสสาวะออก ให้ได้อย่างน้อย 0.5 ลิตร ภายใน 24 ชั่วโมง มันจะช่วยบรรเทาความเครียดนั้นได้

 

รูปการดื่มน้ำ

       

      ในสถานการณ์ที่ไม่ค่อยได้รับประทานอาหาร หรือมีอาหารทานน้อยกว่าปกติ ควรดื่มน้ำ 6 – 8 ลิตรต่อวัน แล้วในสภาพอากาศที่รุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพอากาศที่ร้อน และแห้งแล้ง ทั่วไปแล้วมนุษย์เราจะสูญเสียน้ำได้ถึง 2.5 – 3.5 ลิตรต่อชั่วโมงเลยทีเดียว ในสภาพอากาศแบบนี้ ควรที่จะเพิ่มการดื่มน้ำให้มากถึง 14 – 30 ลิตรต่อวันเพื่อทดแทน และเก็บน้ำไว้ในร่างกายเพื่อป้องกันการขาดน้ำ

 

                นอกจากที่จะมีการสูญเสียน้ำแล้ว ร่างกายของคนเรายังมีการสูญเสียของเกลือแร่ หรืออิเล็กโทรไลต์ (Electrolytes) (เกลือในร่างกาย) ในสถานการณ์ที่ไม่มีอาหารให้ทาน มันยังคงรักษาระดับเกลือแร่ในร่างกายไว้ได้

 

รูปตัวอย่างเครื่องดื่มเกลือแร่

 

      แต่ในสถานการณ์ที่รุนแรง หรือเจ็บป่วย อาจจะขาดแคลนขึ้นในร่างกาย จำเป็นที่จะต้องหามาเสริมให้กับร่างกาย โดยการดื่มจะเกลือแร่ ควรมีส่วนผสมของเกลือ 0.25 ช้อนชา ต่อน้ำ 1 ลิตร ร่างกายก็จะไม่ขาดอิเล็กโทรไลต์ แล้วพร้อมที่จะดูดซึมเกลือแร่แล้วสามารถนำไปใช้งานได้

 

รูปน้ำผสมเกลือ เพื่อทดแทนเกลือในร่างกายที่ขาดไป

 

เมื่อเกิดปัญหาในสถานการณ์ความอยู่รอด ควรที่จะป้องกันการสูญเสียของน้ำให้มากที่สุด ด้านล่างต่อไปนี้เป็นแนวทางที่จะทำให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ

 

Ø ดื่มน้ำเสมอเมื่อรับประทานอาหาร น้ำที่ใช้บริโภคจะเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการย่อย และถ้าดื่มน้ำไม่เพียงพอสามารถนำไปสู่ภาวะขาดน้ำ

 

Ø ปรับตัวให้ชินกับสภาพแวดล้อมใหม่ที่พบ (Acclimatize) จะทำให้ร่างกายสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความจำเป็นที่จะฝึกฝนให้เกิดการปรับตัว

 

Ø อย่าให้เสียเหงื่อมากเกินไป จำกัดการเสียเหงื่อ ถ้ามีกิจกรรม ก็ควรดื่มน้ำทดแทน

 

Ø ปันส่วนน้ำไว้ จนกว่าจะหาแหล่งน้ำที่เหมาะสม พยายามปันส่วนน้ำอย่างมีเหตุผล เพื่อป้องกันการขาดน้ำอย่างรวดเร็ว ควรบริโภคน้ำผสมน้ำตาล 0.5 ลิตร (ประมาณ 2 ช้อนชาต่อน้ำ 1 ลิตร) ต่อวัน ก็จะเพียงพอที่จะป้องกันการขาดน้ำอย่างรุนแรง ควรดื่มต่อเนื่องเป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ จะทำให้น้ำในร่างกายของคุณสูญเสียน้ำในระดับที่ต่ำ จากการทำตัวเองให้รอด และจากความร้อนที่ทำให้สูญเสียน้ำ 

 

สามารถประเมินการสูญเสียน้ำได้จากอัตราการเต้นของหัวใจ และการหายใจได้ ดูได้จากแนวทางด้านล่างนี้

 

v ถ้าสามารถจับการเต้นของชีพจรได้ต่ำกว่า 100 ครั้งต่อนาที และอัตราการหายใจ 12 – 20 ครั้งต่อนาที อาจสูญเสียน้ำไปจากร่างกายไปประมาณ 0.75 ลิตร

 

v ถ้าสามารถจับการเต้นของชีพจรได้ต่ำกว่า 100 – 120 ครั้งต่อนาที และอัตราการหายใจ 20 – 30 ครั้งต่อนาที อาจสูญเสียน้ำไปจากร่างกายไปประมาณ 0.75 – 1.5 ลิตร

 

v ถ้าสามารถจับการเต้นของชีพจรได้ต่ำกว่า 120 – 140 ครั้งต่อนาที และอัตราการหายใจ 30 – 40 ครั้งต่อนาที อาจสูญเสียน้ำไปจากร่างกายไปประมาณ 0.75 – 1.5 ลิตร การเต้นของชีพจรจะสูง (ความดันเลือดค่อนข้างสูง) มีความจำเป็นที่จะต้องได้รับการดูแล

 

 

ข้อคิดดี ๆ ที่นำมาฝาก

 

“เมื่อใครสักคนหนึ่ง ทำผิด ท่านอย่าเพิ่งตำหนิหรือต่อว่าเขา

 เพราะถ้าท่านเป็นเขาและตกอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นเดียวกับเขา

ท่านอาจจะตัดสินใจทำเช่นเดียวกับเขาก็ได้”

 

ขงเบ้ง

Share on Facebook
 
Google

WWW
http://www.thummech.com/
ฟังเพลงออนไลน์ คลิกเลย
 
Copyright © 2013-2015 Thummech All Rights Reserved. 
Powered by  ThaiWebPlus 
คนธรรมดามีความรู้คือคนฉลาด คนฉลาดมีความเข้าใจคือคนธรรมดา