บทที่ 19 แมกนีเซียม, สังกะสี, ดีบุก และโลหะพิเศษอื่น ๆ
อุตสาหกรรมสมัยใหม่ มีธาตุทางโลหะให้เลือกใช้งานมากกว่า 60 ธาตุ ในการออกแบบนำโลหะมาใช้งานจะขึ้นอยู่วัตถุประสงค์ที่จะนำไปใช้ โลหะแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติที่โดดเด่นแตกต่างกันออกไป เพื่อประยุกต์การใช้งานได้เต็มที่
มีไม่น้อยที่โลหะที่ไม่ใช่เหล็กสามารถเปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มคุณสมบัติให้ดีขึ้น โดยได้จากการผสม, การรีดเย็น, และชุบแข็งฉับพลัน กระบวนการต่าง ๆ เหล่านี้ได้อธิบายไว้ในบทที่ 16 แล้ว
ในบทนี้จะเน้นกล่าวถึงธาตุ 3 ธาตุ ได้แก่ แมกนีเซียม (Magnesium), สังกะสี (Zinc) และดีบุก (Tin) ทั้งสามธาตุนี้ มีการใช้ประโยชน์บ่อยมากสำหรับการใช้ในงานด้านโลหะวิทยาที่ไม่ใช่เหล็ก
นอกเหนือจากนี้ยังมีโลหะพิเศษ เช่น นิกเกิล, ไทเทเนียม และทองคำ โลหะพิเศษเหล่านี้เป็นโลหะที่มีราคาสูง และมีกระบวนการผลิตที่แตกต่างจากโลหะที่ไม่ใช่เหล็กแบบอื่น ๆ จะได้กล่าวต่อไปในบทนี้
19.1 แมกนีเซียมเบื้องต้น
รูปธาตุแมกนีเซียม
แนะนำเพื่อให้อ่านได้ต่อเนื่องให้ คลิกขวาเลือก Open link in new window
แมกนีเซียมเป็นโลหะที่เบามาก นำมาใช้สำหรับชิ้นส่วนขนาดเล็ก และมีการใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวางในชิ้นส่วนเครื่องกลที่ต้องการความหนาแน่นของชิ้นงานต่ำ และต้องการให้ทนทานต่อการกัดกร่อน
รูปแมกนีเซียม
มันมีอัตราความแข็งแกร่งสูงเมื่อเทียบกับน้ำหนัก ซึ่งสามารถทำการเปรียบเทียบกันได้ในความแข็งแกร่งกับอลูมิเนียม และเหล็กกล้าผสมบางชนิด
แมกนีเซียมมีความหนาแน่นในเนื้อวัสดุต่ำมาก มันยืดหยุ่นตัวได้น้อยกว่าโลหะชนิดอื่น ๆ อาจมีการเจือผสมของธาตุอื่นจำนวนเล็กน้อย เช่น อลูมิเนียม, สังกะสี หรือเซอร์โคเนียม (Zirconium: Zr) ที่นำมาผสมพร้อมกับแมกนีเซียม เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของโลหะที่ทำการผสม
การที่จะทำให้แมกนีเซียมมีความบริสุทธิ์จะต้องทำการแยกด้วยสารละลายที่เป็นตัวนำไฟฟ้า (Electrolytically) จนสารประกอบแตกตัวเป็นอะตอมในสารละลาย จากเกลือแมกนีเซียมหลอมเหลว เป็นแมกนีเซียมอิเล็กโทรไลซิสต์ (Magnesium electrolysis) คล้ายกับอลูมิเนียมอิเล็กโทรไลซิสต์ ในระหว่างการทำให้บริสุทธิ์
แมกนีเซียมคลอไรด์ หรือแมกนีเซียมออกไซด์ ถูกแยกเป็นแมกนีเซียม กับคลอไรด์ หรือแก๊ส ออกซิเจน เนื่องจากการเริ่มต้นปล่อยกระแสไฟฟ้าไปในเซลล์ที่ผลิตขึ้นมา นับจากแมกนีเซียมที่หนาแน่นน้อยกว่าอิเล็กโทรไลต์หลอมเหลว จนมันลอยถึงด้านบนของเซลล์เพื่อการฟื้นคืนสภาพปกติ
ในการทำให้เป็นแมกนีเซียมบริสุทธิ์ไปจนถึงการผลิตออกมาเพื่อเชิงพาณิชย์ จำเป็นต้องใช้ปริมาณไฟฟ้าจำนวนมาก
ข้อคิดดี ๆ ที่นำมาฝาก
ร่วมน้อมรำลึกถึง คำพ่อสอน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต
“คนเราถ้าพอใจในความต้องการ
ก็มีความโลภน้อย เมื่อมีความโลภน้อยก็เบียดเบียนคนอื่นน้อย
ถ้าทุกประเทศมีความคิดว่าทำอะไรต้องพอเพียง
หมายความว่าพอประมาณ ไม่สุดโต่ง ไม่โลภอย่างมาก
คนเราก็อยู่เป็นสุข”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พระราชทานแก่คณะบุคคลที่เข้าเฝ้าฯ ณ ศาลาดุสิดาลัย ๔ ธันวาคม ๒๕๔๑
ขอน้อมส่งพระองค์สู่สวรรคาลัย
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ