15.5 คาร์บอนไนไตรดิง
การทำคาร์บอนไนไตรดิงเป็นกระบวนการรมก๊าซ ก๊าซที่ใช้ได้แก่ ก๊าซคาร์บอน กับไนโตรเจน หรือก๊าซแอมโมเนีย กับก๊าซธรรมชาติโดย ใช้ทั้งคู่กับชิ้นส่วนเหล็กกล้า โดยให้ก๊าซไปสัมผัสกับชิ้นส่วน
ผลที่ได้ออกมาจะผสมผสานกันระหว่างเหล็กคาร์ไบ และเหล็กไนไตร คาร์บอนไนไตรดิงปกติใช้สำหรับงานเคลือบผิวบาง มีความหนาเคลือบประมาณ 0.1 – 0.25 มิลลิเมตร (0.005-0.01นิ้ว)
รูปพลาสม่าไนไตรดิง
แนะนำเพื่อให้อ่านได้ต่อเนื่องให้ คลิกขวาเลือก Open link in new window
ข้อดีของการทำคาร์บอนไนไตรดิง
เมื่อเปรียบเทียบกับก๊าซคาร์บูไรซิ่ง คาร์บอนไนไตรดิงมีข้อดีมากกว่าการชุบผิวแข็งแบบอื่น โดยใช้อุณหภูมิความเปลี่ยนแปลงต่ำกว่าทำให้สถานภาพของไนโตรเจนจะปรับเปลี่ยนไปเป็นโครงสร้างออสเตนไนต์ และให้อัตราการทำความเย็นที่ช้ากว่า
กระบวนการคาร์บอนไนไตรดิง จะทำอยู่ที่อุณหภูมิ 760°C ถึง 930°C (1400°F ถึง 1700°F) ต่ำกว่าอุณหภูมิความร้อนใช้สำหรับคาร์บูไรซิ่ง ประมาณ 55°C (100°F) ดูที่รูปด้านล่าง
รูปอ่างไนไตรดิง
การชุบแข็งด้วยน้ำมัน เทคนิคที่น่าทึ่ง (Dramatic) น้อยกว่าการชุบแข็งด้วยน้ำ แต่สามารถใช้ได้เพราะว่า ความแข็งสามารถเกิดขึ้นที่อัตราความเย็นที่ช้ากว่า ความเค้นภายในก็ลดลง และมีความเสี่ยงของการบิดรูป, การแตกร้าว และการบิดตัวไปจากเดิมน้อย
รูปโรงงานทำพลาสม่าไนไตรดิงสมัยใหม่
ข้อคิดดี ๆ ที่นำมาฝาก
๑.ชีวิต ย่อมเป็นไปตามลิขิต (ละชั่วทำดี)...วอนขออะไร
๒.วันนี้ไม่รู้เหตุการณ์ในวันพรุ่งนี้...กลุ้มเรื่องอะไร
๓.ไม่เคารพพ่อแม่ แต่เคารพพระพุทธองค์...เคารพทำไม
๔.พี่น้องคือผู้ที่เกิดตามกันมา...ทะเลาะกันทำไม
๕.ลูกหลานทุกคนล้วนมีบุญตามลิขิต...ห่วงใยทำไม
๖.ชีวิตย่อมมีโอกาสประสบความสำเร็จ...ร้อนใจทำไม
๗.ชีวิตใช่จะพบเห็นรอยยิ้มกันได้ง่าย...ทุกข์ใจทำไม
๘.ผ้าขาดปะแล้วกันหนาวได้...อวดโก้ทำไม
๙.อาหารผ่านลิ้นแล้วกลายเป็นอะไร...อร่อยไปไย
๑๐.ตายแล้วบาทเดียวก็เอาไปไม่ได้...ขี้เหนียวทำไม
๑๑.ที่ดินคือสิ่งที่สืบทอดแก่คนรุ่นหลัง...โกงกันทำไม
๑๒.โอกาสจะได้กลายเป็นเสีย...โลภมากทำไม
๑๓.สิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่เหนือศีรษะเพียง ๓ ฟุต...ข่มเหงกันทำไม
๑๔.ลาภยศเหมือนดอกไม้ที่บานอยู่ไม่นาน...หยิ่งผยองทำไม
๑๕.ทุกคนย่อมมีลาภยศตามวาสนาที่ลิขิต...อิจฉากันทำไม
๑๖.ชีวิตลำเค็ญเพราะชาติก่อนไม่บำเพ็ญ...แค้นใจทำไม (บำเพ็ญไวไว)
๑๗.นักเล่นการพนันล้วนตกต่ำ...เล่นการพนันทำไม
๑๘.ครองเรือนด้วยความประหยัด ดีกว่าไปขอพึ่งผู้อื่น...สุรุ่ยสุร่ายทำไม
๑๙.จองเวรจองกรรมเมื่อไรจะจบสิ้น...อาฆาตทำไม
๒๐.ชีวิตเหมือนเกมหมากรุก...คิดลึกทำไม
๒๑.ฉลาดมากเกินจึงเสียรู้...รู้มากทำไม
๒๒.พูดเท็จทอนบุญจนบุญหมด...โกหกทำไม
๒๓.ดีชั่วย่อมรู้กันทั่วไปในที่สุด...โต้เถียงกันทำไม
๒๔.ใครจะป้องกันมิให้มีเรื่องเกิดขึ้นได้ตลอด...หัวเราะเยาะกันทำไม
๒๕.ฮวงซุ้ยที่ดีอยู่ในจิต ไม่ใช่อยู่ที่ภูเขา...แสวงหาทำไม
๒๖.ข่มเหงผู้อื่นคือทุกข์ รู้ให้อภัยคือบุญ...ถามโหรเรื่องอะไร
๒๗.ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย...วุ่นวายทำไม
จี้กง